เร่งค้นหาผู้รอดชีวิตเหตุโคลนถล่มในโคลอมเบีย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุน้ำท่วมดินถล่ม ด้านตัวเลขผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ 

ทีมกู้ภัยเร่งทำงานแข่งกับเวลาค้นหาผู้รอดชีวิตรายอื่นๆที่ยังคงติดค้างอยู่ในซากโคลน และเศษซากของบ้านเรือนที่พังถล่มลง ในเมือง Mocoa หลังฝนตกหนักที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำไหลท่วม และเกิดดินโคลนถล่มบ้านเรือนหลายหลัง ผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน

บรรดาชาวเมืองต้องเดินแหวกเศษซากของอาคาร และต้นไม้ ในขณะที่ทีมกู้ภัยพยายามรื้นค้นตามซากปรักหักพัง เพื่อค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิต ขณะนี้ถนนของเมืองถูกปกคลุมไปด้วยดิน และโคลนสีน้ำตาล ชาวเมืองขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับดื่มกิน และไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติการค้นหาในช่วงเวลากลางคืนได้

ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ระบุว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิต 207 คน แต่ขณะนี้จำนวนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างฝังอยู่ใต้โคลน และเชื่อกันว่ายังมีร่างของผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบอีกจำนวนมาก

ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนี้นอกจากจะทำลายที่อยู่อาศัยแล้ว ยังส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 200 คน รวมถึงผู้สูญหายอีกจำนวนมาก หลายครอบครัวพบว่ารายชื่อของบุคคลที่พวกเขารักนั้นไม่ได้อยู่ในรายชื่อของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต และขณะนี้ทางโรงพยาบาลเองกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนยา และสวัสดิการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับผู้ป่วยปริมาณมากขนาดนี้ในคืนเดียว

น้ำท่วม และดินถล่มครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งผู้คนกำลังนอนหลับ บรรดาเหยื่อผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถหนีขึ้นไปยังที่สูงได้ทัน ด้านประธานาธิบดีฮวน มานูเอล ซานโตสระบุ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนี้รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี และปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในคืนนั้นคืนเดียวก็มีมากเทียบเท่ากับปริมาณน้ำฝน 30% ของทั้งเดือน นอกจากนั้นยังกล่าวโทษภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้น้ำแข็งละลาย จนทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

เมื่อปีที่ผ่านมา ในเดือนตุลาคม โคลอมเบียเองก็เพิ่งจะเผชิญกับดินถล่มไปทางตอนเหนือของประเทศส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และในเดือนต่อมาก็เกิดเหตุดินถล่มขึ้นอีกครั้งในเมือง El Tambo ทางตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย