posttoday

สิงคโปร์เตรียมขึ้นค่าน้ำ 30%

21 กุมภาพันธ์ 2560

กระทรวงการคลังสิงคโปร์ประกาศแผนเพิ่มค่าบริการน้ำ 2 ไตรมาส ในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับกับต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น

กระทรวงการคลังสิงคโปร์ประกาศแผนเพิ่มค่าบริการน้ำ 2 ไตรมาส ในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับกับต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น

ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ ประชาชนชาวสิงคโปร์อาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากรัฐบาลสิงคโปร์ประกาศเตรียมขึ้นค่าน้ำราว 30% โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 1 กรกฏาคมนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีเลยทีเดียว ที่รัฐบาลปรับค่าน้ำให้เพิ่มมากขึ้น

Heng Swee Keat รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศข่าวดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นในการจัดสรรหาน้ำ รวมไปถึงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำทะเล และโรงรีไซเคิลน้ำเสียที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ Heng ระบุว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากน้ำคือความอยู่รอดของชาติ และปัจจุบันการนำเข้าน้ำจืด และแม้ว่าการกักเก็บน้ำเพื่อรีไซเคิลในประเทศสามารถผลิตน้ำได้มากกว่าครึ่งหนึ่งของความต้องการทั้งประเทศ แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองปัจจัยนี้ยังคงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลัก

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมามีความกังวลกันว่าแหล่งน้ำสำคัญอย่างแม่น้ำ Johor ในประเทศอาจกำลังเผชิญกับภาวะแห้งแล้งในปีนี้ เนื่องจากอ่างเก็บน้ำ Linggiu ที่รับน้ำจากแม่น้ำนั้นมีระดับน้ำลดต่ำลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในปี 2016 ที่ผ่านมา

หน่วยงานน้ำแห่งชาติ หรือ PUB ระบุ ค่าบริการน้ำจะเพิ่มขึ้นจำนวน 92 เซนต์ ต่อลูกบาศก์เมตรสำหรับครัวเรือนที่ใช้น้ำต่อเดือนในปริมาณ 40 ลูกบาศก์เมตร หรือน้อยกว่า และในเดือนกรกฏาคม ปี 2018 ค่าบริการน้ำจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งเป็น 1.18 ดอลล่าร์สิงคโปร์ ต่อลูกบาศก์เมตร เพื่อป้องกันประชาชนจากการใช้น้ำมากเกินไป

ด้านรัฐมนตรี Heng เน้นย้ำว่า หลังเดือนกรกฎาคมปี 2018 เป็นต้นไป ร้อยละ 75 ของครัวเรือนจะมีค่าใช้จ่ายค่าบริการน้ำที่เพิ่มขึ้นไม่เกิน 18 ดอลล่าร์สิงคโปร์ต่อเดือน ส่วนสำหรับภาคธุรกิจ 3 ใน 4 จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไม่เกิน 25 ดอลล่าร์สิงคโปร์

อย่างไรก็ตามทางรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลเองจะแนะนำมาตรการที่ช่วยให้ครอบครัวชนชั้นกลาง และชนชั้นล่างมีรายได้มากขึ้น เพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เช่นการคืนเงินภาษีเป็นต้น