เจรจาสันติภาพซีเรียจบลงด้วยดี สานต่อการประชุมที่เจนีวา

แถลงการณ์หลังการประชุมนานาประเทศให้คำมั่นสร้างข้อตกลงหยุดยิงที่มีประสิทธิภาพ ยุติการยั่วยุ พร้อมปูทางไปสู่การเจรจาต่อในเดือนหน้า

ผลการประชุมเจรจาเพื่อสันติภาพซีเรียจบลงด้วยความคืบหน้า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (วันที่ 24 มกราคม) หลังเจรจาเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในกรุงอัสตานา ของคาซัคสถาน ภายใต้การดำเนินงานโดยประเทศตัวกลางอย่างรัสเซีย, ตุรกี และอิหร่าน พร้อมด้วยคณะตัวแทนจากรัฐบาล ของประธานาธิบดีบาร์ซา อัล-อัสซาด และกลุ่มกบฏซีเรีย

ทั้งหมดตกลงร่วมกันที่จะสร้างกลไก เพื่อให้ข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และจะเดินหน้าเจรจาครั้งต่อไป เพื่อปูทางการสร้างสันติภาพอย่างถาวร ในการประชุมที่จะเกิดขึ้นที่เมืองเจนีวา ของสวิสเซอร์แลนด์ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้

การเจรจาที่เกิดขึ้นที่กรุงอัสตานา นับเป็นครั้งแรกที่ทั้งรัฐบาลซีเรีย และกลุ่มกบฏหันหน้าเข้าพูดคุยกัน ร่วมด้วยคณะผู้แทนจากประเทศตัวกลาง และเลขาธิการผู้แทนสหประชาชาติพิเศษเพื่อซีเรีย นาย Staffan de Mistura และเอกอัคราชทูตสหรัฐ ประจำคาซัคสถาน

จากการแถลงการณ์หลังสิ้นสุดการประชุม นานาประเทศจะร่วมกันสังเกตการณ์ และสร้างกลไกให้ข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด รวมทั้งการป้องกันไม่ให้เกิดการยั่วยุใดๆ ไม่ว่าจากฝ่ายไหนก็ตามที่จะส่งผลให้เกิดการละเมิดข้อตกลงขึ้นอีกครั้ง

นอกจากนั้นในแถลงการณ์จากการประชุมเน้นย้ำว่าทุกฝ่ายจะมุ่งมั่นในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอส และกลุ่มอัลนุสารา โดยพิจารณาพวกเขาให้เป็นการต่อสู้ในฐานะการจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มกบฏซีเรีย

ทั้งนี้คณะผู้แทนจากกลุ่มกบฏซีเรียระบุว่า การเจรจาสันติภาพจะเกิดขึ้นได้ประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการถอนกำลังทหารสนับสนุนของนานาชาติ ที่สนับสนุนรัฐบาล และกองกำลังซีเรียออกไป ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลซีเรียเอง แม้ในการประชุมวันแรกจะกล่าวหาว่ากลุ่มกบฏนั้นเป็นผู้ก่อการร้าย และรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องนั่งเจรจาร่วมกับคณะตัวแทนของกลุ่มกบฏ แต่ บาร์ซา อัล-จาฟารี หัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาลก็ยืนยันว่า รัฐบาลซีเรียเองจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดสงครามนองเลือดนี้

ด้านรัสเซีย, ตุรกี และอิหร่าน ทั้งสามประเทศเองก็รับรองว่าพวกเขาจะมุ่งมั่นสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในซีเรีย คืนอิสระให้ประชาชน สร้างความสามัคคีให้กลับคืนมายังดินแดนนี้อีกครั้ง และยังเชื่อมั่นว่าวิธีการทางทหารนั้นไม่สามารถใช้แก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ มีเพียงแต่กระบวนการทางการเมืองเท่านั้น ที่จะสามารถยุติสงครามซีเรียได้

ผู้เชี่ยวชาญจากคาซัคสถาน ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศ และหัวหน้าคระกรรมการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ แสดงความคิดเห็นหลังผลการเจรจาถูกประกาศออกมา พวกเขาระบุว่าผลการเจรจานี้นับเป็นความก้าวหน้าของซีเรีย รวมถึงเป็นจุดเปลี่ยนของนานาประเทศที่พยายามยุติสงครามซีเรียเช่นกัน