posttoday

"สหรัฐ" ยกพลเข้าโปแลนด์ เจ้าบ้านเฮช่วยต้านอิทธิพลรัสเซีย

16 มกราคม 2560

กองทัพสหรัฐเคลื่อนพลเข้าประจำการในโปแลนด์ 4,000 นาย สะท้อนความกังวลต่อความเคลื่อนไหวของรัสเซีย

กองทัพสหรัฐเคลื่อนพลเข้าประจำการในโปแลนด์ 4,000 นาย สะท้อนความกังวลต่อความเคลื่อนไหวของรัสเซีย

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี เบอาตา ซิดโล แห่งโปแลนด์ ในฐานะประธานในพิธี พร้อมด้วยประชาชนชาวโปแลนด์อีกหลายร้อยคน ร่วมต้อนรับกำลังพลของกองทัพสหรัฐจำนวน 4,000 นายที่เข้ามาประจำการในโปแลนด์ ณ เมืองซากาน ตามกระบวนการสับเปลี่ยนกำลังพลที่ประจำการในยุโรปของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต

นายกรัฐมนตรีแห่งโปแลนด์กล่าวแสดงความยินดีว่า นับเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่ชาวโปแลนด์มีโอกาสได้ต้อนรับทหารอเมริกัน ซึ่งเป็นตัวแทนจากกองทัพที่ดีและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้าน อันโทนี มาเซียเรวิช กล่าวว่า ชาวโปแลนด์รอคอยทหารอเมริกันมานานหลายสิบปี จนรู้สึกว่ากำลังถูกทอดทิ้งให้เดียวดาย จนกระทั่งเกือบจะสูญสิ้นความหวัง และแสดงความเชื่อมั่นว่านับแต่นี้ทหารอเมริกันจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเสรีภาพ อิสรภาพ และสันติภาพในยุโรปและทั้งโลก และโปแลนด์ภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมปกป้องความมั่นคงของยุโรปในภาคพื้นตะวันออก

ขณะที่ พอล โจนส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำโปแลนด์กล่าวว่า ทหารที่มาประจำการยังโปแลนด์เป็นหน่วยที่มีศักยภาพสูงสุด และมีความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งที่จะปกป้องพันธมิตรนาโต เช่นเดียวกับ พันเอกทิโมธี แมคไกวร์ รองผู้บัญชาการหน่วยแลนด์ฟอร์ซประจำยุโรป กล่าวเสริมว่า กองพันรถเกราะต่อสู้ที่ 3 แห่งกองพลทหารราบที่ 4 มีศักยภาพสูงและพร้อมต่อสู้ด้วยยุทโธปกรณ์ ความเป็นผู้นำ และการฝึกที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับกองกำลังอื่นๆ ในโลก และเพื่อที่จะเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ ทหารหน่วยนี้จะทำการซ้อมรบเสมือนจริงกับพันธมิตรในโปแลนด์และส่วนอื่นๆ ในยุโรป

คำกล่าวของผู้นำโปแลนด์และผู้บัญชาการฝ่ายสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลต่อความเคลื่อนไหวของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรัสเซียผนวกดินแดนไครเมียของยูเครน จนทำให้ประเทศยุโรปตะวันออกที่มิได้เป็นพันธมิตรกับรัสเซียเกิดความรู้สึกไม่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นโปแลนด์ กลุ่มประเทศทะเลบอลติกที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต แต่ปัจจุบันเป็นสมาชิกนาโต หรือเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู)

ด้านรัฐบาลรัสเซียกล่าวประณามการเคลื่อนย้ายกำลังพลครั้งนี้ว่า เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ของรัสเซีย โดย ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวว่า การที่ประเทศที่ 3 มิใช่รัสเซียหรือโปแลนด์ ที่มีพรมแดนติดต่อกัน ส่งกำลังทหารมาประจำการใกล้กับพรมแดนของรัสเซียถือเป็นภัยคุกคาม ไม่ว่าจะเป็นกำลังทหาร 1,000 หรือ 10,000 นายก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศนั้นยังมิได้อยู่ในยุโรปเสียด้วย

ทั้งนี้ แม้ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์นาโตอย่างรุนแรง แต่ วิโทลด์ วาชซีโควสกี กล่าวว่า โปแลนด์ไม่ยินยอมให้ถูกเปรียบ แม้ว่าแนวโน้มความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซียที่ดีขึ้นก็ตาม และยืนยันว่าชาวโปแลนด์ไม่มีอะไรที่ต้องหวาดกลัว

โปแลนด์จุดตัดความขัดแย้ง

โปแลนด์มีสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการถูกรุกรานทั้งจากมหาอำนาจในยุโรปตะวันตกและรัสเซีย นับตั้งแต่โบราณ โปแลนด์ถูกชาติที่แข็งแกร่งกว่ารุกรานและผนวกดินแดนบ่อยครั้ง บางครั้งถึงกับสูญสิ้นความเป็นชาติ นอกจากนี้ โปแลนด์ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่จำเป็นจะต้องไปผ่านหากต้องการเคลื่อนกำลังพลเข้ารัสเซียหรือเคลื่อนทัพเข้ายุโรป ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่มีการรุกรานโปแลนด์ครั้งสำคัญๆ ดังนี้

1.สงครามโปแลนด์-รัสเซีย ปี 1792 ผลคือโปแลนด์แพ้ รัสเซียผนวกดินแดน 250,000 ตร.กม. นาน 123 ปี

2.การรุกรานโปแลนด์ของสหภาพโซเวียต ปี 1920 ผลคือตกลงเซ็นสัญญาสงบศึก และตกลงเรื่องพรมแดน

3.การรุกรานโปแลนด์ของนาซีเยอรมัน ปี 1939 นาซีรุกรานทางตะวันตก เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2

4.การรุกรานโปแลนด์ของสหภาพโซเวียต ปี 1939 เพียง 6 วันหลังนาซีรุกราน โซเวียตยกทัพบุกทางตะวันออก

ภาพ...เอเอฟพี