posttoday

ยักษ์เอเชียแห่ลงทุนสหรัฐ

11 มกราคม 2560

อาลีบาบาตอบรับทรัมป์เตรียมช่วยสร้างงาน ด้านโตโยต้าเผยแผนลงทุนหลังโดนขู่ขึ้นภาษี

อาลีบาบาตอบรับทรัมป์เตรียมช่วยสร้างงาน ด้านโตโยต้าเผยแผนลงทุนหลังโดนขู่ขึ้นภาษี

แจ็ค หม่า ประธานบริหารอาลีบาบา อี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน เปิดเผยหลังพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่า อาลีบาบามีแผนจะช่วยธุรกิจรายย่อยสหรัฐ 1 ล้านแห่ง โดยเฉพาะธุรกิจสินค้าเกษตรและผู้ผลิตสิ่งทอรายย่อยให้เข้าถึงลูกค้าชาวจีนผ่าน "ทีมอล" แพลตฟอร์มของอาลีบาบาที่มีบริการหน้าร้านออนไลน์และระบบการชำระเงิน โดยคาดว่าจะสามารถสร้างงานให้กับสหรัฐได้ 1 ล้านอัตรา ภายใน 5 ปีข้างหน้า

ด้านโฆษกของอาลีบาบา ระบุว่า ในปัจจุบันมีแบรนด์สัญชาติสหรัฐ 7,000 แห่ง ใช้บริการของทีมอล ซึ่งหมายรวมถึง คอสต์โค โฮลเซล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าส่งและลีวายส์ ผู้ผลิตเสื้อผ้า โดยทั้งหมด 7,000 แห่ง สามารถสร้างรายได้จากลูกค้าชาวจีน 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 5.35 แสนล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์สระบุว่า ค้าปลีกบางแห่งวิตกเกี่ยวกับการทำธุรกิจ กับอาลีบาบา โดยในเดือน ก.ย. แบรนด์กระเป๋าชื่อดัง โคช ปิดหน้าร้านในทีมอลไป และเดือน ธ.ค. สหรัฐขึ้นบัญชีดำเถาเป่า เว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ของอาลีบาบา หลังยังพบการขายสินค้าปลอมและละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก

ขณะเดียวกัน โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น เปิดเผยแผนการลงทุนในสหรัฐ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.57 แสนล้านบาท) ในอีก 5 ปีข้างหน้า พร้อมเปิดตัวรถยนต์คัมรีรุ่นใหม่ ซึ่งรถยนต์รุ่นดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในสหรัฐมาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา

สำหรับความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังทรัมป์เปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า จะเก็บภาษีโตโยต้าเพิ่มเติมหาก โตโยต้าหันไปผลิตด้วยโรงงานในเม็กซิโกและนำเข้าไปขายในสหรัฐ โดยโตโยต้ามีโรงงานผลิตรถยนต์รุ่นโคโรลลาอยู่แล้วในรัฐมิสซิสซิปปี ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา โตโยต้าประกาศเพิ่มกำลังการผลิตรุ่นโคโรลลาในโรงงานเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม โตโยต้ายืนยันว่าการเพิ่มการผลิตไม่กระทบกับการจ้างงานในสหรัฐ

ทั้งนี้ นอกจากเอกชนจากเอเชียแล้ว ค่ายรถอื่นๆ ยังมีการประกาศการลงทุนเพิ่มในสหรัฐด้วย เช่น บริษัท เฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ (เอฟซีเอ) ประกาศแผนลงทุน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.57 หมื่นล้านบาท) เพื่อปรับปรุงโรงงานและสร้างงานเพิ่ม 2,000 อัตรา