posttoday

ตร.ญี่ปุ่นพบมือระเบิดฆ่าตัวตายโพสต์ข้อความสิ้นหวังก่อนก่อเหตุ

24 ตุลาคม 2559

ตำรวจญี่ปุ่นพบ ชายมือระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองอุสึโนะมิยะ โพสต์ข้อความสิ้นหวัง-โกรธแค้นต่อสังคมก่อนก่อเหตุ

ตำรวจญี่ปุ่นพบ ชายมือระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองอุสึโนะมิยะ โพสต์ข้อความสิ้นหวัง-โกรธแค้นต่อสังคมก่อนก่อเหตุ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ได้เกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งในเมืองอุสึโนะมิยะ ของจังหวัดโทจิงิ ทางตอนเหนือของของโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบากเจ็บอย่างน้อย 3 ราย โดยจากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตชื่อ นายโทชิคาสึ คุริฮาระ อายุ 72 ปี และเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในครั้งนี้

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายคุริฮาระ ได้โพสต์ข้อความบนบล็อกส่วนตัวลงวันที่ 9 ต.ค. ว่า "ผมต้องการให้บล็อกนี้ดังเปรี้ยง แต่แท้จริงแล้วมีผู้ชมไม่กี่คน ผมคงต้องก่อเรื่องใหญ่ ผมรู้สึกสิ้นหวังเหลือเกิน"

นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวยังได้อัพโหลดคลิปเสียง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกฉุนเฉียวที่ผู้คนไม่ให้ความสนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น "เว้นแต่เพียงเรื่องนั้นเป็นเรื่องใหญ่"

อีกโพสต์หนึ่ง ระบุว่า "ผมขอจบชีวิตนี้ ด้วยการกระทำที่สังคมจะไม่มีวันให้อภัย"

คณะผู้สอบสวนเชื่อว่า นายคุริฮาระได้จุดระเบิดฆ่าตัวตายขณะที่นั่งอยู่ในสวนอุสึโนะมิยะ โจชิ เมื่อเวลากระมาณ 11.40 น. เมื่อวานนี้ โดยม้านั่งที่นั่งอยู่บริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการใช้ระเบิดความรุนแรงสูง

นอกจากนี้ ยังพบกระดาษระบุข้อความว่า "ผมขอชำระด้วยชีวิต" ในถุงเท้าของนายคุริฮาระด้วย

ขณะที่บ้านของนายคุริฮาระ ซึ่งห่างจากสวนดังกล่าวไปประมาณ 8 กิโลเมตร ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้เมื่อเวลาประมาณ 11.15 น. ในวันเดียวกัน จากนั้นประมาณ 15 นาทีรถของเขาก็ลุกไหม้พร้อมกับอีกหลายๆคัน

ส่วนโพสต์อื่นๆที่เชื่อว่านายคุริฮาระเป็นคนเขียนนั้นระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับภรรยาประสบกับความล้มเหลว เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องของการรักษาโรคของลูกสาว ทั้งยังได้วิจารณ์การทำงานของผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ของศาลครอบครัวอุสึโนะมิยะ หลังเขาแพ้คดีหย่าร้าง

"ผมถูกยึดทรัพย์ บ้านก็จะถูกประมูล" ขณะที่อีกโพสต์ระบุว่า "ราวกับว่าศาลครอบครัวกำลังบอกให้ผมไปเข้าคุก"

นอกจากนี้ ยังพบข้อความในอีกเว็บไซต์หนึ่งว่า "นี่คือจดหมายลาตายของผม" "สักวันหนึ่งผมคงต้องจากโลกนี้ไป" และ "ผมคงเหงาน่าดูหากต้องไปคนเดียว"

ภาพ...เอเอฟพี