posttoday

ในวัยเด็กผู้ทรงเป็นแบบอย่าง

19 ตุลาคม 2559

ลูกชายคุณครูของในหลวงเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ร่วมรำลึกถึงช่วงเวลาที่น่าประทับใจในสวิสเซอร์แลนด์

ลูกชายคุณครูของในหลวงเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ร่วมรำลึกถึงช่วงเวลาที่น่าประทับใจในสวิสเซอร์แลนด์

มีหนังสือหลายเล่มที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช ไปจนถึงพระปรีชาสามารถในด้านการกีฬา, วิทยาศาสตร์ ตลอดจนดนตรี แต่มีเพียงไม่กี่เล่มเท่านั้นที่จะถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของพระองค์เมื่อครั้งประทับอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ในวัยเยาว์ และได้รับการศึกษาร่วมกับสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล

หนังสือที่มีชื่อว่า “King Bhumibol and the Thai Royal Family in Lausanne” ถูกเขียนขึ้นโดย Lysandre C. Seraidaris เขาเป็นลูกชายคนเล็กของ Cleon C. Seraidaris ทนายความหนุ่มผู้กลายมาเป็นพระอาจารย์ของในหลวง และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลโดยเฉพาะ

ในวัยเด็กผู้ทรงเป็นแบบอย่าง

Cleon C. Seraidaris กำลังศึกษาปริญญาทางกฏหมายที่มหาวิทยาลัยโลซาน ในขณะที่เขาถูกทาบทามโดยหลานของสมเด็จพระจอมเก้าเจ้าอยู่หัวเพื่อไปสอนหนังสือแก่ในหลวง

โลซานเป็นเมืองที่มีสเน่ห์ และเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัย นั่นคือเหตุผลที่เชื้อพระวงศ์ตัดสินใจมาพำนักยังเมืองนี้ อีกทั้งเมืองแห่งนี้ยังค่อนข้างเงียบสงบ ดังนั้นจึงไม่มีผู้คนไปรบกวนพระองค์ Seraidaris กล่าว

Cleon C. Seraidaris พ่อของเขาปฏิเสธที่จะเขียนบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นหนังสือ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในปี 2540 ต่อมา Seraidaris ผู้เป็นลูกตัดสินใจที่จะเขียนเรื่องราวทั้งหมด เพราะในหลวงทรงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่เขา พระองค์ตรัสว่าหนังสือดังกล่าวจะเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่ดี และทรงยินดีที่จะปรับแก้ให้หากมีสิ่งใดผิดเพี้ยนไป

ในวัยเด็กผู้ทรงเป็นแบบอย่าง

Seraidaris เล่าว่าทั้งสองพระองค์เมื่อยังทรงพระเยาว์ชอบถามคำถามตลอดเวลาเช่นเดียวกับเด็กที่่ชอบถามผู้ใหญ่ พ่อของเขาไปสอนหนังสือตั้งแต่เช้า และใช้เวลาอยู่จนถึงเย็นเพื่อตอบคำถาม, ดูแลการศึกษาของทั้งสองพระองค์, แนะนำโรงเรียน และคุณครูที่เหมาะสมให้ และสอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต

นอกจากนั้นพ่อของเขายังพาทั้งสองพระองค์ไปโรงเรียน พบปะพูดคุยกับอาจารย์ท่านอื่น และยังสอนให้ทั้งสองพระองค์เล่นกีฬาอีกด้วย ซึ่งพระองค์ทรงโปรดการเล่นกีฬาการแจ้งอย่างมาก เช่นสกี, ขี่จักรยาน, สเก็ตบอร์ด, ปีนเขา ไปจนถึงการเก็บเห็ด

ในวัยเด็กผู้ทรงเป็นแบบอย่าง

พ่อของเขากล่าวว่าทั้งสองพระองค์เป็นนักเรียนที่สมบูรณ์แบบ เพราะสนใจในทุกๆเรื่อง ซึ่ง Seraidaris อธิบายว่าช่วงเวลาที่พ่อของเขาได้ดูแลการศึกษาของทั้งสองพระองค์ พ่อของเขาเองก็ได้พัฒนาตัวเองไปด้วยเช่นกัน แม้ว่าในตอนที่พ่อของเขาจะอายุ 90 ปีแล้ว ก็ยังใฝ่รู้ใฝ่เรียนสิ่งใหม่ๆ ทุกวันตลอดเวลา และการได้รับเกียรติให้สอนหนังสือแก่หนึ่งในพระมหากษัตริย์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก เป็นสิ่งที่หาสิ่งใดเสมอเหมือนได้ และสิ่งนั้นมีคุณค่าพอที่จะถ่ายทอดลงมาเป็นหนังสือ

อย่างไรก็ดีทั้งสองพระองค์ไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนกินนอน เช่นเด็กคนอื่น เพราะสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเห็นว่าเป็นการดีกว่าถ้าจะให้ทั้งสองพระองค์เรียนรู้ชีวิตนอกวัง

ทั้งสองพระองค์รู้ว่าตนสืบเชื้อสายกษัตริย์ แต่พระมารดาต้องการให้ชีวิตปกติดั่งสามัญชน เพื่อสอนให้พวกเขาเข้าใจความเป็นอยู่ของประชาชน  และสามารถที่จะทำงานเพื่อประชาชนได้ในอนาคต ทั้งสองพระองค์มักได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากประชาชน เพราะพระองค์มักหยุดทักทายผู้คนที่รู้จักเมื่อครั้งเสด็จอยู่ตามท้องถนนในเมืองโลซาน

ในวัยเด็กผู้ทรงเป็นแบบอย่าง

Seraidaris เล่าเรื่องราวประทับใจของภรรยาร้านอาหารจีนแห่งหนึ่งในเมืองให้ฟังว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนิยมมาซื้อเชอร์รี่จากเธอไปเต็มตะกร้า และยังนำเชอร์รี่ของเธอไปบอกต่อยังผู้คนอื่น รวมถึงมาส่งพวกเขาที่ร้านด้วยตนเองอีกด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งเธอลื่นล้มและพระองค์ช่วยพยุงเธอขึ้น เป็นความทรงจำที่เธอไม่เคยลืม

ภรรยาร้านอาหารจีนในเมืองโลซานไม่ใช่เพียงคนเดียวที่ประทับใจในตัวพระองค์ แต่ตลอดการครองราชย์มานาน 70 ปี และความตรากตรำในพระราชกรณียกิจพระองค์ทรงเข้าไปสถิตอยู่ในหัวใจของผู้คนนับล้าน และจะเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน

 

ขอขอบคุณ Tha Nation