posttoday

หยวนเข้าตะกร้าเงินIMF

01 ตุลาคม 2559

เงินหยวนเข้าเอสดีอาร์วันนี้ คาดหนุนการใช้ในวงกว้าง ด้านกูรูชี้จีนยังต้องปฏิรูประบบการเงินต่อ

เงินหยวนเข้าเอสดีอาร์วันนี้ คาดหนุนการใช้ในวงกว้าง ด้านกูรูชี้จีนยังต้องปฏิรูประบบการเงินต่อ

สกุลเงินหยวนของจีนได้รับการรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มตะกร้าสกุลเงินเอสดีอาร์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มการใช้สกุลเงินหยวนในวงกว้างขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การเพิ่มเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเอสดีอาร์จะมีผลเล็กน้อยต่อความต้องการถือครองสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินหยวน พร้อมย้ำว่าจีนจำเป็นต้องปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง หากต้องการผลักดันให้เงินหยวนเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างแท้จริง

ก่อนหน้านี้ เจคอป ลิว รัฐมนตรีคลังของสหรัฐ เปิดเผยว่า สกุลเงินหยวนยังห่างไกลจากการเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ขณะที่ยอมรับว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนพยายามผลักดันการใช้เงินหยวนในวงกว้างขึ้น

“สถานะสกุลเงินเอสดีอาร์ยืนยันว่าเงินหยวนได้รับการยอมรับจากนานาชาติ จากการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และหลังจากที่จีนเดินหน้าปฏิรูปเชิงโครงสร้าง โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวควรเป็นแรงผลักดันให้จีนดำเนินการปฏิรูปเพิ่มต่อไป” ชีโหล นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส จากบีเอ็นพี พาริบาส ในฮ่องกง กล่าว

อย่างไรก็ดี รอยเตอร์สรายงานอ้างนักวิเคราะห์หลายรายว่า เนื่องจากรัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมเงินหยวนอย่างใกล้ชิด โดยการเข้ามาแทรกแซงค่าเงินเพื่อสร้างเสถียรภาพ ทำให้นักลงทุนหลายรายยังคงสงสัยเกี่ยวกับมูลค่าของเงินหยวนในตลาด

ด้านธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) เปิดเผยว่า จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบยืดหยุ่น พร้อมจะดำเนินการปฏิรูปด้านอัตราแลกเปลี่ยนและนโยบายอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรักษาสภาพคล่องในระบบการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ขณะที่บลูมเบิร์กรายงานว่า พีบีโอซีดำเนินการดึงเงินออกจากระบบเมื่อวานนี้ มูลค่า 4.2 แสนล้านหยวน (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) ผ่านข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืนระยะ 7 วัน (รีเวิร์ส-รีโป) ซึ่งเป็นวงเงินสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่า จีนต้องการควบคุมสภาพคล่องเพื่อจำกัดแรงกดดันที่ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง ก่อนที่เงินหยวนจะเข้าสู่ตะกร้าสกุลเงินเอสดีอาร์ รวมถึงจีนพยายามบรรเทาภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์  

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ราคาบ้านใหม่โดยเฉลี่ยใน 70 เมืองใหญ่ของจีนพุ่งขึ้น 9.2% ในเดือน ส.ค. สูงกว่าเดือน ก.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 7.9% และปรับขึ้นมากที่สุดในรอบ 6 ปี แม้ว่าราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ได้เพิ่มความเสี่ยงให้กับระบบการเงิน โดยรัฐบาลท้องถิ่นในหลายเมืองใหญ่ของจีนได้ออกมาตรการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อควบคุมราคาบ้านในช่วงที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน มาร์กิต/ไคซิน เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) เดือน ก.ย.ปรับขึ้นแตะระดับ 50.1 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคผลิตของจีนยังคงขยายตัว โดยผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ภายในประเทศและต่างประเทศปรับตัวขึ้นเล็กน้อย

ภาพ เอเอฟพี