ไวรัสตับอักเสบเอระบาดในสหรัฐ! เกิดจากสตรอเบอร์รี่

ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของโรคไวรัสตับอักเสบเอ หลายรัฐในสหรัฐ ด้านกรมควบคุมโรคกล่าวมีสาเหตุมาจากสตรอเบอร์รี่ที่นำเข้าจากอียิปต์

สำนักข่าว CNN รายงานการระบาดของโรคไวรัสตับอักเสบเอที่เกิดขึ้นหลายรัฐ ของสหรัฐอเมริกาในขณะนี้มีสาเหตุมาจากสตรอเบอร์รี่แช่แข็งที่นำเข้ามาจากประเทศอียิปต์ โดยจากรายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วยแล้วจำนวน 55 คน ใน 6 รัฐด้วยกัน โดยเป็นจำนวน 44 ราย ในรัฐเวอร์จิเนีย รัฐแรกที่เริ่มมีการระบาดของโรค ตามมาด้วยรัฐแมรี่แลนด์จำนวน 4 ราย, เวสต์ เวอร์จิเนียอีก 4 ราย และในรัฐนอร์ท คาโรไลนา, โอเรกอน และ วิสคอนซิน อีกอย่างละ 1 ราย

โรคไวรัสตับอักเสบเอเป็นโรคติดต่อ แต่ไม่ส่งผลให้มีอาการป่วยเรื้อรัง โดยผู้ที่เคยป่วยด้วยโรคนี้จะมีภูมิคุ้มกัน และไม่ป่วยซ้ำอีกครั้ง

นอกจากนั้นรายงานจากกรมอนามัยของรัฐยังระบุว่า ในรัฐเวอร์จิเนียนั้นผู้คนที่ติดเชื้อได้รับเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนมากับสตรอเบอร์รี่นำเข้าจากประเทศอียิปต์ รายงานจากผู้ป่วย 1 รายระบุว่าได้ดื่มเป็นเครื่องดื่มประเภท สมูทตี้จากคาเฟ่ จึงส่งผลให้ติดเชื้อ

หลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป และยืนยันโดยหน่วยงานด้านสุขภาพของเวอร์จิเนีย ซีอีโอของร้าน Tropical Smoothie Cafe ในรัฐเวอร์จิเนียได้ประกาศทิ้งสตรอเบอร์รี่ชุดเก่าหมดแล้ว และจะรับสตรอเบอร์รี่จากผู้ผลิตแหล่งใหม่ ในการเป็นวัตถุดิบแทน

โรคไวรัสตับอักเสบเอนั้นลดการแพร่ระบาดลงถึง 95% นับตั้งแต่มีการแจกจ่ายวัคซีนเมื่อปี 2538 แต่จากข้อมูลล่าสุดของกรมควบคุมโรค ในปี 2557 นั้น มีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมดเป็น 1,239 ราย ใน 50 รัฐ

ด้านศูนย์ยุโรปเพื่อป้องกัน และควบคุมโรคได้รายงานว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 จนถึง เดือนเมษายน 2556 มีรายงานผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบเอ 104 ราย ที่ติดเชื้อมาจากการเดินทางไปท่องเที่ยวในอียิปต์

โรคไวรัสตับอักเสบเอ จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีไข้ อาเจียน และมีอาการตัวเหลืองคล้ายดีซ่าน ผู้ป่วยสามารถหายได้เองภายใน 2 เดือน แต่บางรายอาการอาจคงอยู่ได้ถึง 6 เดือน ปกติแล้วจะมีการให้วัคซีนอย่างน้อย 4 สัปดาห์แก่ผู้ที่มีความเสี่ยงต้องเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้