ผวาซิการะบาดทั่วอาเซียน
สิงคโปร์ยกระดับเฝ้าระวังการแพร่เชื้อ ด้านเกาหลีใต้เตือนอาเซียนระวังการระบาดช่วงหน้าฝน
สิงคโปร์ยกระดับเฝ้าระวังการแพร่เชื้อ ด้านเกาหลีใต้เตือนอาเซียนระวังการระบาดช่วงหน้าฝน
ทางการสิงคโปร์ยกระดับการเฝ้าระวังการแพร่เชื้อของไวรัสซิกา เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อแล้ว 50 ราย เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกเพียง 1 วัน โดยเป็นการติดเชื้อจากในพื้นที่ และผู้ป่วยไม่ได้เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง รวมทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสิงคโปร์ (เอ็นอีเอ) ส่งเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ฉีดยาฆ่ายุง และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง 1,800 แห่ง จากที่คาดไว้ว่ามีทั้งหมด 6,000 แห่งในย่านที่อยู่อาศัยหลัก
ทั้งนี้ ในจำนวนผู้ติดเชื้อมี 36 ราย ที่เป็นแรงงานก่อสร้างชาวต่างชาติ ซึ่งอยู่ในย่านอัลจูนี ทางตะวันออกเฉียงใต้ และยังพบผู้ติดเชื้อกระจายในพื้นที่อื่นๆ ด้วย
ขณะเดียวกันทางการมาเลเซียยกระดับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดในชายแดนติดสิงคโปร์ โดยประจำการเจ้าหน้าที่แพทย์ที่จุดตรวจคนเข้าเมือง และได้ตรวจนักท่องเที่ยวที่มีอาการต้องสงสัยแล้ว 2 ล้านราย แต่ยังไม่พบการติดเชื้อ
นอกจากนี้สิงคโปร์แสดงความกังวลถึงการแพร่ระบาดในอินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม เช่นเดียวกับองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เตือนหลายประเทศ ครอบคลุมถึงบังกลาเทศ ลาว มาเลเซีย มัลดีฟส์ และฟิลิปปินส์ โดยพบการติดเชื้อในไทยแล้วเกือบ 100 รายในปีนี้
ขณะที่โฆษกรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ระบุว่า กำลังติดตามการแพร่เชื้อ แต่ยังไม่พบ ส่วนในเวียดนามพบผู้ติดเชื้อ 3 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น ด้านไต้หวันยกระดับการเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังสิงคโปร์ และแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการเดินทาง
ก่อนหน้านี้ ศูนย์ควบคุมโรคของเกาหลีใต้เตือนอาเซียนเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสซิกาในช่วงเดือน ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งย่างเข้าหน้าฝน โดยเกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อแล้ว 10 ราย มี 3 รายเป็นผู้เดินทางกลับมาจากฟิลิปปินส์และเวียดนาม
ล่าสุด ทางการสหรัฐออกมาตรการฉุกเฉินให้อำนาจ โรช บริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติสวิส ในการเข้าทดสอบวินิจฉัยกรณีพบความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสซิกา
ทั้งนี้ ไวรัสซิกาซึ่งเริ่มระบาดอย่างหนักในละตินอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว และหลายประเทศเอเชีย โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐ ระบุว่า ไวรัสซิกาอาจทำให้ทารกที่เกิดจากผู้ติดเชื้อมีขนาดสมองผิดปกติ รวมทั้งอาจจะก่อให้เกิดภาวะอัมพาตในผู้ใหญ่
ภาพ เอเอฟพี