โลกร้อนน่ากลัว
ฟ้ารั่ว อากาศร้อนผิดปกติ น้ำท่วมใหญ่ ขณะนี้กระแสโลกกำลังเทความสนใจว่าเป็นเพราะภาวะผิดปกติของสภาวะอากาศโลกหรือภาวะโลกร้อน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ 100% ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะปัญหาโลกร้อน
ฟ้ารั่ว อากาศร้อนผิดปกติ น้ำท่วมใหญ่ ขณะนี้กระแสโลกกำลังเทความสนใจว่าเป็นเพราะภาวะผิดปกติของสภาวะอากาศโลกหรือภาวะโลกร้อน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ 100% ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะปัญหาโลกร้อน
โดย....ธนพล ไชยภาษี
ประเด็นหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ไม่ปักใจเชื่อในภาวะโลกร้อนอย่างเต็มที่นัก เพราะที่ผ่านๆ มา บรรดาโลกตะวันตกเริ่มนำคำว่า “ภาวะโลกร้อน” ไปผูกกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจเข้าให้แล้ว
อย่างกฎหมาย American clean energy and security act 2009 ซึ่งผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไปเมื่อเดือน มิ.ย. เมื่อปีที่แล้ว ก็มีผลผูกพันกับการนำเข้าสินค้าของสหรัฐ ซึ่งสินค้าต่างๆ จะถูกบวกภาษีคาร์บอนเข้าไปด้วยเช่นกัน ทำให้สินค้านำเข้าในสหรัฐจะมีราคาสูงขึ้น ตรงนี้แหละครับที่สหรัฐถูกมองว่ากำลังใช้เรื่อง ภาวะโลกร้อนเข้ามาเป็นข้ออ้างแอบแฝงกีดกันการค้ากับต่างชาติ
เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการเสนอในที่ประชุม จี20 ให้เรียกเก็บภาษีคาร์บอนดังกล่าวด้วย แต่โชคดีที่ประชุมปัดประเด็นนี้ตกไปเสียก่อน
เมื่อวานนี้ มีข่าวเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนขึ้นอีกเช่นกัน โดยเป็นข้อมูลจากหอวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Academy of Science) ของสหรัฐ บอกว่า อุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น ทำให้ปริมาณข้าวจากการเพาะปลูกที่ได้นั้นลดน้อยถอยลงไป
รายงานได้อ้างว่า ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา ผลผลิตข้าวในเอเชียนั้นได้ลดลงไปราว 1020% อันเป็นผลมาจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น
ฟังดูอาจจะเคลิ้มไป เพราะกระแสโลกร้อนในยุคนี้มาแรงจริงๆ แต่ก็ต้องฟังหูไว้หูครับ ผลผลิตข้าวที่ลดลงไม่ได้เป็นผลมาจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเพียงอย่างเดียว
น่าเสียดายรายงานที่ว่าไม่ได้กล่าวถึงพื้นที่เพาะปลูกในเอเชียที่ลดลง อันเป็นผลมาจากการขยายตัวของพื้นที่อยู่อาศัยและเขตอุตสาหกรรม ซึ่งในประเทศไทย ผมคิดว่าเห็นกันได้ชัดๆ ว่าพื้นที่เมืองกำลังกลืนกินพื้นที่เพาะปลูกข้าวมากขึ้นไปทุกที
รายงานจากสหรัฐในตอนท้ายก็ยังไม่วายแนะให้เพิ่มการวิจัยพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนดีขึ้น หรือวิจัยพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตดียิ่งขึ้น
สหรัฐมีความเชี่ยวชาญด้านนี้อย่างยิ่งครับกับการวิจัยพันธุ์พืชและสัตว์ คิดว่าสหรัฐคงทำได้อย่างไม่ยากในการสร้างพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศแร้นแค้นได้ดีกว่าเดิม หรือพันธุ์ที่ให้ผลผลิตมากขึ้นกว่าเดิม
เกรงแต่ว่าในท้ายที่สุดแล้ว พันธุ์ข้าวเหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นมาใหม่จากพื้นฐานความกลัว “ภาวะโลกร้อน” ก็จะถูกจดลิขสิทธิ์โดยสหรัฐและผูกขาดในตลาดโลกในที่สุด
โลกร้อนน่ากลัวแน่นอนครับ แต่การแสวงหาผลประโยชน์จากโลกร้อนของโลกตะวันตกนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าแน่..!