posttoday

สลดอีก!แม่ปากีฯจับลูกสาวเผาทั้งเป็น ฉุนหนีไปอยู่กินกับแฟนหนุ่ม

09 มิถุนายน 2559

แม่ปากีสถานจับลูกสาววัย18เผาทั้งเป็นจนตาย รับไม่ได้ไปแต่งงานกับผู้ชายที่ครอบครัวไม่ได้เลือกให้

แม่ปากีสถานจับลูกสาววัย18เผาทั้งเป็นจนตาย รับไม่ได้ไปแต่งงานกับผู้ชายที่ครอบครัวไม่ได้เลือกให้

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. เว็บไซต์ข่าว'เทเลกราฟ'ได้รายงานอีกหนึ่งเรื่องราวสลดซึ่งเกิดที่ประเทศปากีสถาน เมื่อ'ปาร์วีน บีบี'คุณแม่รายหนึ่งได้จับ'ซีนัต ราฟิคิว'ลูกสาววัย 18 ปีเผาทั้งเป็นจนเสียชีวิต หลังรับไม่ได้ที่ลูกสาวหนีไปแต่งงานกับชายหนุ่มที่ครอบครัวไม่ได้เลือกให้ซึ่งทำให้ครอบครัวเสียหน้า

เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อนางชีพนัตได้แอบไปจดทะเบียนแต่งงานกับหนุ่มคนรัก'ฮาสัน คาห์น'เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมาและหนีไปอยู่กินกัน ทั้งที่ฝ่ายครอบครัวไม่เห็นด้วยและบังคับให้เธอแต่งงานกับคู่หมายที่พ่อแม่เลือกให้ตามประเพณีดั้งเดิม สร้างความไม่พอใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

หลังจากหนีไปอยู่บ้านฮาสันได้เพียง 4 วัย ครอบครัวซีนัตก็ติดต่อมาว่าให้อภัยเธอแล้วและจะจัดงานแต่งงานให้เธอกับนายฮาสันอย่างสมเกียรติตามประเพณี ทั้งคู่จะได้อยู่กินอย่างมีความสุข

สลดอีก!แม่ปากีฯจับลูกสาวเผาทั้งเป็น ฉุนหนีไปอยู่กินกับแฟนหนุ่ม แฟนหนุ่ม

ทีแรกนางซีนัตก็ไม่ยอมเชื่อ เพราะกลัวว่าครอบครัวต้องฆ่าเธอแน่ๆ แต่แล้วเธอก็ยอมใจอ่อนหลังจากลุงแท้ๆ ของเธอเดินทางมาการันตีความปลอดภัยความปลอดภัยของเธอ

แต่และแล้วในคืนหนึ่งขณะที่เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง แม่และพี่ชายของเธอก็เข้ามาจับตัวเธอมัดกับเตียงก่อนจะราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผาลูกในไส้ของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม แม้เสียงกรีดร้องจะส่งผลให้เพื่อนบ้านต่างๆ วิ่งเข้ามาจะช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ทัน

นางปาร์วีนหรือผู้เป็นแม่ของซีนัตวิ่งออกมากลางถนนอย่างเสียสติหลังเพิ่งฆ่าลูกสาวเสร็จ พร้อมตะโกนลั่นว่า "ทุกคน! ฉันได่ฆ่าลูกสาวโทษฐานที่มันทำให้ครอบครัวอับอายขายขี้หน้าแล้ว"

เจ้าหน้าที่ได้สามารถจับนางปาร์วีนได้ แต่ยังไม่ได้สามารถจับกุมลูกชายผู้ร่วมก่อเหตุได้ ทั้งนี้นางปาร์วีนได้ยอมรับโดยดีพร้อมกับยืนยันว่าไม่มีเสียใจต่อสิ่งที่ทำลงไปเลย

สลดอีก!แม่ปากีฯจับลูกสาวเผาทั้งเป็น ฉุนหนีไปอยู่กินกับแฟนหนุ่ม

อนึ่ง ตามรายงานของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนในปากีสถานระบุว่า แต่ละปีจะมีผู้หญิงกว่า 1,000 รายถูกฆ่าโดยคนในครอบครัวเพื่อเป็นการรักษาเกียรติยศของครอบครัว

ที่มา telegraph