posttoday

เผยเบื้องหลังจับเจ้าพ่อยาเสพติด "เอล ชาโป" ได้เบาะแสจาก "ฌอน เพนน์"

11 มกราคม 2559

เจ้าหน้าที่เม็กซิโก เผยเบาะแสจับกุมเจ้าพ่อยาเสพติด "เอล ชาโป" มาจากการสัมภาษณ์ของ "ฌอน เพนน์" นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง

เจ้าหน้าที่เม็กซิโก เผยเบาะแสจับกุมเจ้าพ่อยาเสพติด "เอล ชาโป" มาจากการสัมภาษณ์ของ "ฌอน เพนน์" นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง

ในที่สุด ฮัวกิน กุซมาน หรือ “เอล ชาโป” พ่อค้ายาเสพติดผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของเม็กซิโก ก็กลายเป็นเสือสิ้นลาย หลังทางการส่งหน่วยรบพิเศษบุกเข้าจับกุมตัวเจ้าพ่อรายนี้ได้ในแหล่งกบดานกลางป่านอกเมืองโลส โมชิส ปิดฉากปฏิบัติการไล่ล่ายาวนานถึง 6 เดือน นับตั้งแต่ที่ หัวหน้าแก๊งซินาโลอามุดอุโมงค์ความยาวเกือบ 2 กม. หลบหนีจากเรือนจำที่มีมาตรการควบคุมที่รัดกุมที่สุดไปได้อย่างลอยนวล

จากรายงานของกองทัพเรือ ที่ส่งหน่วยรบพิเศษนาวิกโยธินเข้าไปรวบตัวพ่อค้ายาตัวเอ้ระบุว่า ทางการได้รับเบาะแสจากประชาชนในเมืองเมืองโลส โมชิส รัฐซินาโลอาว่าพบเห็นกลุ่มติดอาวุธคอยอารักขาบ้านหลังหนึ่งอย่างผิดสังเกต ทางการจึงสั่งจับตาบ้านหลังดังกล่าวนานถึง 1 เดือน ก่อนที่จะตัดสินใจลงมือในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 8 ม.ค. หลังการปะทะอย่างดุเดือด ยังผลให้สมุนของพ่อค้ายาเสียชีวิตไป 5 ราย จับเป็นได้อีก 6 ราย

ส่วนเอล ชาโปหลบหนีไปได้ชั่วระยะเวลาสั้นๆ และเกือบถูกวิสามัญฆาตกรรม แต่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจไม่สาดกระสุนสังหาร เพราะขณะนั้นมีผู้หญิง 2 คน กับเด็กอีก 1 คน อยู่กับเขาด้วย ทำให้ต้องจับเป็น และยังสามารถรวบตัวผู้ช่วยที่ชื่อ เอล โชโล ไว้ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของเม็กซิโกไม่เปิดชื่อรายหนึ่งแจ้งกับสำนักข่าวเอพีว่า เบาะแสที่นำไปสู่การจับกุมตัวมาจากการสัมภาษณ์ลับระหว่าง เอล ชาโป กับ ฌอน เพนน์ นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง เจ้าของรางวัลออสการ์ ที่ดั้นด้นไปพูดคุยกับเจ้าพ่อค้ายาเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว ก่อนที่บทสัมภาษณ์จะตีพิมพ์ในนิตยสารโรลลิง สโตน ( Rolling Ston) ในเดือนถัดมา

การพบปะกันครั้งนี้ เพนน์เป็นผู้จัดแจงขึ้นมาเองร่วมกับ เคต เดล กัสติลโย นักแสดงหญิงชาวเม็กซิกัน โดยมีคนกลางช่วยประสานงาน และได้รับอนุญาตจากแก๊งซินาโอลาแล้ว

สาเหตุที่เคต เดล กัสติลโยมีส่วนร่วมกับการสัมภาษณ์เนื่องจากในปี 2012 เธอเคยโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ระบุว่า เชื่อถือในเอล ชาโปมากกว่ารัฐบาลของตัวเอง ทำให้แก๊งซินาโลอาพยายามติดต่อเธอ และให้ทนายของเอล ชาโปส่งดอกไม้ไปให้ และพบกับคนกลางที่ชื่อ เอสปิโนซ่า คอยติดต่อระหว่างเธอกับเอล ชาโป จนกระทั่งเธอได้พูดคุยกับเขาโดยตรง

เพนน์รู้จักกับเดล กัสติลโยผ่านกลุ่มเพื่อนที่ลอสแองเจลิส ทั้งคู่พูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับพ่อค้ายา แต่หลังจากหารือกันแล้วพบว่าการสัมภาษณ์น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า เพนน์มีโอกาสพบกับคนกลางของแก๊งและเสนอตัวว่าต้องการจะสัมภาษณ์เอล ชาโป ซึ่งได้รับไฟเขียวอย่างเหนือความคาดหมาย

เพนน์และผู้เกี่ยวข้องเริ่มเดินทางจากลอสแองเจลิสไปยังเมืองแห่งหนึ่งในเม็กซิโก จากนั้นจึงเริ่มการเดินทางหลายต่อ เริ่มจากยรถยนต์นาน 1.5 ชม. ด้วยความเร็วกว่า 200 กม./ชม. โดยครื่องบินเล็กพร้อมอุปกรณ์ป้องกันการติดตามนาน 2 ชม. จากนั้นนั่งรถต่ออีก 7 ชม. จนถึงกลางป่าดงดิบที่มีบังกะโลสองสามหลังและผู้คุ้มครองอีกไม่กี่คน แต่เอล ชาโปบอกว่ามีผู้คุ้มกันอีกนับ 10 คนใกล้ๆ กัน หลังจากนั้นจึงเริ่มการสัมภาษณ์ปากเปล่านานถึง 7 ชม.

ทั้งนี้ เพนน์ไม่มีเจตนาที่จะเปิดเผยแหล่งกบดานของเจ้าพ่อค้ายาตั้งแต่แรก เนื่องจากหวั่นเกรงว่า อาจถูกหมายหัวจากสมุนของเอล ชาโป อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เพนน์เสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ไม่กี่ชั่วโมง ทางการเม็กซิโกได้เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึงเพนน์ไปให้ปากคำ

ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องที่ถูกเรียกตัวไปสอบได้เปิดเผยข้อมูลที่สำคัญอะไรหรือไม่ แต่ทางการเม็กซิโกยืนยันว่าได้เบาะแสจากการสอบสวน และหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลนี้ก็เกิดกระแสเรียกร้องให้จับกุมตัวเพนน์ ในฐานพบปะกับพ่อค้ายาตัวอันตรายแต่กลับไม่แจ้งกับเจ้าหน้าที่

หลังจากนี้โอกาสที่เอล ชาโปจะหลบหนีจากที่คุมขังเป็นครั้งที่ 2 คงยากขึ้นอีกหลายเท่าตัวจนถึงเป็นไปไม่ได้ หลังจากที่เคยทำสำเร็จมาแล้วถึง 2 ครั้งเมื่อปี 2014 และ 2015 เนื่องจาก ทางการเม็กซิโกกำลังเร่งกระบวนการส่งตัวเขาไปดำเนินคดีที่สหรัฐในคคีค้ายาเสพติด

ทั้งนี้ หนึ่งในสาเหตุที่เอล ชาโปสามารถหลบหนีจากที่คุมขังที่มีมาตรการเข้มงวดได้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา คาดว่าอาจเป็นเพราะมีหนอนบ่อนไส้ภายในหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากอิทธิพลเงินตราและอำนาจมืดของแก๊งค้ายาสามารถซื้อได้กระทั่งเจ้าหน้ที่ระดับสูงของรัฐบาล

เปิดบทสัมภาษณ์มัดตัว

เอล ชาโป อ้างว่า เขาเป็นผู้อัดฉีดยาเสพติดเข้าสู่ตลาดมืดมากกว่าใครๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นเฮโรอิน ยาบ้า โคเคน เขามีแม้กระทั่งฝูงเรือดำน้ำ ฝูงบิน ขบวนรถบรรทุก และขบวนเรือ

แม้จะเป็นพ่อค้ายาเสพติดตัวอันตราย แต่เขายืนยันว่าเป็นแค่เกษตรกร และไม่ควรโทษเขาที่คนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อยาเสพติด เพราะถึงเขาจะตายไปคนก็ยังจะเสพอยู่ดี

เพนน์ ถามว่า แก๊งซินาโลอาของเขาเป็นตัวอันตรายหรือไม่ เอล ชาโป ตอบว่า ทั้งหมดที่ทำไปก็เพื่อป้องกันตัวเอง และไม่เคยคิดที่จะไปสร้างปัญหาให้กับใครก่อน

หัวหน้าแก๊งรายนี้สั่งให้ลูกน้องไปเยอรมนีเพื่อศึกษาวิธีขุดอุโมงค์ ก่อนจะมาขุดช่องทางหลบหนีให้กับเขาเมือเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาแก๊งซินาโลอาขึ้นชื่อในเรืองขุดอุโมงค์ข้ามพรมแดนไปฝั่งสหรัฐเพื่อขนถ่ายยาเสพติด

ภาพ...ทวิเตเตอร์โรลลิง สโตน