ฮิลลารีผงาดเหนือชาย ดีเบตตัวแทนชิงเก้าอี้ปธน.

"ฮิลลารี คลินตัน" โชว์เหนือคุมการดีเบตชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

การเปิดศึกชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในการโต้วาที หรือดีเบต รอบแรกซึ่งจัดขึ้นที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา นับเป็นเวทีดีเบตที่ไม่ธรรมดา เพราะทุกสายตาจับจ้องไปที่ผู้ท้าชิงคนเดียว นั่นคือ ฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ

ฮิลลารีเคยผ่านศึกโต้วาทีที่แสนจะเผ็ดร้อนมาแล้วเมื่อ 8 ปีก่อน แต่ต้องพ่ายให้กับ บารัก โอบามา ซึ่งต่อมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีถึง 2 สมัย ในปีนี้ ฮิลลารีมีความมั่นอกมั่นใจมากขึ้น ประสบการณ์ทางการเมืองที่รอบจัดและยาวนานถึง 20 ปี รวมถึงทักษะการโต้เถียงที่เรียกเสียงเฮจากผู้ฟังได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากตัวแทนหญิงรายนี้แล้ว ยังมีผู้ท้าชิงอีก 4 คนล้วนแต่เป็นชายอกสามศอกทั้งหมด และบางคนยังเป็น “จอมเก๋า” ในวงการเมือง ไม่ว่าจะเป็น เบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิมาชิกอิสระที่ดำรงตำแหน่งในวุฒิสภายาวนานที่สุด มาร์ติน โอมอลลีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ ลินคอล์น แชฟี อดีตผู้ว่าการและวุฒิสมาชิกรัฐโรด ไอแลนด์ และจิม เวบบ์ อดีตวุฒิสมาชิกรัฐเวอร์จิเนีย

ในบรรดาผู้ท้าชิงเหล่านี้ ฮิลลารีกับแซนเดอร์สที่มีฝีมือและลีลาพอฟัดพอเหวี่ยงกันมากที่สุด และปะทะคารมกันบ่อยครั้ง ส่วนผู้ท้าชิงรายอื่นๆ เป็นแค่ไม้ประดับในรายการนี้

โดยเฉพาะประเด็นที่สร้างกระแสโต้เถียงในสหรัฐมากที่สุด นั่นคือ การถือครองอาวุธปืนเสรี ปัญหาความวุ่นวายในซีเรีย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญในการโต้วาทีครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งฮิลลารีตำหนิว่า ท่าทีของแซนเดอร์สเกี่ยวกับกฎหมายควบคุมอาวุธปืนยังไม่หนักแน่นเพียงพอ ต่างจากตัวเธอที่ยืนยันจะผลักดันกฎหมายควบคุมอาวุธปืน และจะตรวจสอบผู้ผลิตอาวุธเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลัง จากน้ำมือของเยาวชนและคนคลุ้มคลั่งที่สามารถซื้ออาวุธปืนได้อย่างง่ายดายแล้วนำมาก่อเหตุร้าย

ฮิลลารีเป็นผู้คุมการดีเบตครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง เมื่อเธอถูกพาดพิงถึงเรื่องการใช้อีเมลส่วนตัวในการทำงาน จนถูกตำหนิอย่างหนักว่าอาจทำให้ข้อมูลของรัฐบาลรั่วไหล แต่ปรากฏว่า แทนที่แซนเดอร์สจะโจมตีเธอกลับประกาศว่า ชาวอเมริกันไม่อยากจะได้ยินเรื่องอีเมลของเธออีกต่อไป ทำให้ผู้ฟังโห่ร้องเห็นด้วยจนลั่นห้องส่ง และฮิลลารีได้ไปอีกแต้มโดยไม่ต้องเสียแรง

ในส่วนของนโยบายต่างประเทศ ฮิลลารีสนับสนุนการส่งกำลังทหารไปอิรักก่อนหน้านี้ และยังยืนยันที่จะสนับสนุนการกำหนดพื้นที่ห้ามบินในซีเรียเพื่อกดดันรัฐบาลของ ประธานาธิบดี บาชาร์ อัลอัสซาด ในช่วงเวลาที่รัฐบาลซีเรียได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากรัสเซีย

ฮิลลารียังลั่นวาจาว่า จะยืนหยัดท้าทาย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งกำลังเป็นวายร้ายจอมกลั่นแกล้ง

โดยสรุปแล้ว การโต้วาทีของพรรคเดโมแครตปลอดจากเหตุการณ์อื้อฉาวและการโต้เถียงอย่างดุเดือด ผิดกับการโต้วาทีของพรรคคู่แข่งคือ รีพับลิกัน ที่กลายเป็นกระแสฮือฮาทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวสร้างสีสันอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีผู้พกพาความมั่นใจมาเต็มร้อย และกำลังจะผันตัวเองเข้าสู่เส้นทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้า ฮิลลารีจะต้องเผชิญกับการไต่ส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีสังหารเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศลิเบีย ที่เมืองเบนกาซี เมื่อปี 2012 ระหว่างที่เจ้าตัวดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งเป็นกรณีที่ฮิลลารีตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าไร้ความสามารถที่จะคุ้มครองความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ระดับสูง

ทำความรู้จักฝ่ายเดโมแครต

ฮิลลารี คลินตัน

อดีตสุภาพสตรีหมาเยเลขหนึ่ง สมัยประธานาธิบดี บิล คลินตัน และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสมัยประธานาธิบดีโอบามา ผู้คร่ำหวอดในวงการเห็นตรงกันว่า เธอมีแนวโน้มที่จะได้เป็นตัวแทนพรรคมากที่สุด

เบอร์นี แซนเดอร์ส

ดำรงตำแหน่งในวุฒิสภายาวนานที่สุด มีประสบการณ์ถึง 20 ปี มีแนวคิดสายสังคมนิยมประชาธิปไตยแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตอย่างเป็นทงการ ทว่า ยังได้ร่วมการโต้วาที และขอสมัครเข้าเป็นตัวแทนพรรค

มาร์ติน โอมอลลีย์

อดีตผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์และนายกเทศมนตรีเมืองบัลติมอร์ เสนอให้ควบคุมตลาดการเงินวอลล์สตรีทอย่างเข้มงวดขึ้น และยังเสนอให้ใช้มาตรการจัดการอาชญากรรมอย่างแข็งกร้าว

ลินคอล์น แชฟี

อดีตผู้ว่าการและวุฒิสมาชิกรัฐโรด ไอแลนด์ เคยเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน และต่อมาเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ตอนที่เป็นสมาชิกรีพับลิกัน เป็นวุฒิสมาชิกคนเดียวของพรรคที่โหวตค้านการรุกรานอิรัก

จิม เวบบ์

อดีตวุฒิสมาชิกรัฐเวอร์จิเนีย รัฐมนตรีกระทรวงกิจการกองทัพเรือ และอดีตทหารผ่านศึก แต่ในการหาเสียงครั้งนี้มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเขาน้อยมาก

ภาพ...เอเอฟพี