อัดรายงานค้ามนุษย์สหรัฐเลือกประโยชน์การค้าเหนือสิทธิมนุษยชน

เอ็นจีโอ ซัดรายงานค้ามนุษย์ของสหรัฐ มองผลประโยชน์ทางการค้าเหนือปัญหาสิทธิมนุษยชน

องค์การพันธมิตรเพื่อยุติแรงงานทาสและการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรมีสำนักงานในสหรัฐออกโรงวิจารณ์รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ว่าเห็นแก่ผลประโยชน์ทางการค้า มากกว่าปัญหาการค้ามนุษย์ หลังจากที่ในรายงานการค้ามนุษย์ หรือ TIP ปี 2015 ล่าสุดนั้น สหรัฐได้ยกระดับมาเลเซียพ้นขึ้นจากกลุ่มเทียร์ 3 ขึ้นไปอยู่กลุ่ม เทียร์ 2 เฝ้าจับตา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นเพราะสหรัฐต้องการเจรจาในข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย – แปซิฟิค หรือ ทีพีพี ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ โดยมาเลเซียถือเป็นหนึ่งในสมาชิกทีพีพี ซึ่งถ้าหากมาเลเซียยังติดอยู่ในกลุ่มเทียร์ 3 ก็จะไม่สามารถเจรจาในข้อตกลงดังกล่าวได้

“รัฐบาลสหรัฐได้ยกระดับมาเลเซียอย่างไม่เป็นธรรม ด้วยการเห็นผลประโยชน์ทางการค้าเหนือปัญหาสิทธิมนุษยชน” เอ็นจีโอกลุ่มดังกล่าวระบุ

ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าวของ นาง ซาราห์ เซวอลล์ ปลัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐด้านกิจการสิทธิมนุษยชนนั้น ผู้สื่อข่าวได้ยิงคำถามว่า เป็นเพราะมาเลเซียอยู่ในกลุ่มทีพีพีหรือไม่ที่เป็นปัจจัยสำคัญให้มาเลเซียได้รับการยกระดับในครั้งนี้ ซึ่ง เซวอลล์ ได้ตอบว่า “ไม่ ไม่ ไม่”  พร้อมกับแก้ต่างว่า จากกรณีการขุดพบหลุมศพผู้อพยพใกล้ชายแดนไทยเมื่อเดือนพฤษภาคมนั้นสหรัฐก็มีความวิตกกังวลอย่างมาก แต่ทว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐได้จัดทำรายงานTIP ฉบับนี้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว

ขณะที่ทางด้าน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และวุฒิสมาชิกจำนวนไม่น้อยได้แสดงความวิตกกังวลต่อรายงานดังกล่าวเช่นกัน โดยเฉพาะการยกระดับทั้งมาเลเซีย และคิวบา อย่างน่าเคลือบแคลงใจ

“พวกเขาได้ยกเอาการเมืองขึ้นมาอยู่เหนือหลักการณ์พื้นฐานด้านสินธิมนุษยชนชัดๆ” โรเบิร์ค เมนเดซ วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตกล่าวถึงการยกระดับมาเลเซีย

ทั้งนี้ สหรัฐ และคิวบาเพิ่งจะเริ่มการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี โดยทั้งสองประเทศเพิ่งจะทำการเปิดสถานทูตระหว่างกันอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน