posttoday

เศรษฐีโลกรวยขึ้น2.9ล้านล.

31 ธันวาคม 2557

เศรษฐีพันล้านโลกรวยรวม 131 ล้านล้านบาท แจ็กหม่ารวยสุดในเอเชียแซงลีกาชิง

เศรษฐีพันล้านโลกรวยรวม 131 ล้านล้านบาท แจ็กหม่ารวยสุดในเอเชียแซงลีกาชิง

ดัชนีเศรษฐีพันล้านของบลูมเบิร์กซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวใน ทรัพย์สินของมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก 400 คน พบว่า ในปีนี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นรวม 9.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2.94 ล้านล้านบาท) ทำให้ทรัพย์สินของฐีทั้ง 400 คน รวมกันอยู่ที่ 4.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 131 ล้านล้านบาท)

สำหรับเศรษฐีผู้มีทรัพย์สินเพิ่มมากที่สุดในปีนี้ ได้แก่ แจ็กหม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสัญชาติมังกรรายใหญ่ที่สุด โดยหม่าสามารถเพิ่มทรัพย์สินได้ถึง 2.51 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากหุ้นของบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวที่วอลสตรีทเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีราคาสูงขึ้นถึง 56% ส่งผลให้หม่าขึ้นแท่นบุคคลที่รวยที่สุดในเอเชียแทนที่ ลีกาชิง เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ชาวฮ่องกง

ขณะที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานบริษัทลงทุนเบิร์กไชร์ แฮตทาเวย์ เป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับรองลงมา โดยบัฟเฟตต์มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1.37 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง เฟซบุ๊ก ผู้ให้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์กรายใหญ่ที่สุดในโลกเป็นผู้ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดในสหรัฐอยู่ที่ 1.06 หมื่นล้าน เหรียญสหรัฐ

ในทางกลับกันบรรดามหาเศรษฐีในรัสเซียกลับมีทรัพย์สินลดลงมากที่สุด เนื่องจากการคว่ำบาตรจากโลกตะวันตกและสภาพเศรษฐกิจขาลง โดย วลาดิมีร์ เยฟตูเชนคอฟ มหาเศรษฐีอันดับที่ 14 แห่งแดนหมีขาวต้องสูญเสียทรัพย์สิน 80% จากเดิมที่มีอยู่ หลังจากที่ศาลรัสเซียตัดสินว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีฟอกเงินที่เกี่ยวกับบริษัทน้ำมันแบชเน็ฟต์

อย่างไรก็ตาม บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัท ไมโครซอฟท์ ยังคงเป็นผู้ที่รั้งตำแหน่งบุคคลร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สิน 8.76 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และปีนี้ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ยังมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง 9,100 ล้านเหรียญสหรัฐ อีกด้วย

สำหรับประเทศไทย เจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นคนไทยคนเดียวที่ติดอยู่ในดัชนี โดยได้รับการจัดอันดับจากบลูมเบิร์กว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับที่ 96 ของ 400 อันดับ โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นราว 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.16 หมื่นล้านบาท) และเป็นเจ้าของทรัพย์สินราว 1.13 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.61 แสนล้านบาท)