posttoday

สหรัฐเผยซีไอเอทรมานผู้ต้องสงสัย

10 ธันวาคม 2557

คณะกรรมการข่าวกรองเซเนท เผยรายงานการทำงานของซีไอเอยุคหลังเหตุการณ์ 911 พบมีการทรมานผู้ต้องหาอย่างเลวร้าย รวมถึงมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

คณะกรรมการข่าวกรองเซเนท เผยรายงานการทำงานของซีไอเอยุคหลังเหตุการณ์ 911 พบมีการทรมานผู้ต้องหาอย่างเลวร้าย รวมถึงมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

คณะกรรมการข่าวกรองเซเนท เปิดเผยการพิจารณาทบทวนรายงานของสำนักข่าวกรองสหรัฐ (ซีไอเอ) พบว่า ซีไอเอได้มีโครงการการพัฒนาการสอบสวน ซึ่งรวมไปถึงการทรมานผู้ต้องหาจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ที่ทางซีไอเอกักขังไว้ โดยทางซีไอเอได้ทำให้ทำเนียบขาว สภาคองเกรส และองค์กรอื่นๆ เข้าใจผิดมาโดยตลอด และทางอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชเอง ก็ไม่ได้รับการบรรยายสรุปจากทางซีไอเอแต่อย่างใด ในขณะที่ทางซีไอเอได้ออกมาตอบโต้ว่า วิธีการดังกล่าวได้ช่วยเหลือชีวิตของผู้คนมากมาย

อย่างไรก็ตาม จากรายงานดังกล่าว พบว่า วิธีการสอบสวนด้วยการทรมานไม่ได้ผลนักในการได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และไม่ได้ช่วยในการต่อกรกับกลุ่มอัลกออิดะห์แต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้ช่วยในการหาตัวโอซามา บิน ลาเดน อดีตผู้นำกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าว

รายงานยังระบุด้วยว่า มีผู้ถูกกักขังเสียชีวิต 1 รายในปี 2002 จากอาการตัวเย็นเกินไป หลังจากถูกโซ่ล่ามบังคับให้นอนกึ่งเปลือยบนพื้นคอนกรีต นอกจากนี้ ผู้ถูกกักขังรายอื่นยังมีอาการภาพหลอน หวาดระแวง นอนไม่หลับ และพยายามทำร้ายตัวเองอีกด้วย

ประธานาธิบดีบารัก โอบามา เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ลงไปแล้ว และนับตั้งแต่ที่โอบามาได้สั่งให้หยุดปฏิบัติการดังกล่าวไปแล้ว หากยังพบเห็นการสอบสวนในลักษณะดังกล่าวอีก จะถือว่าเป็นการขัดคำสั่งของประธานาธิบดีและฝ่าฝืนกฎหมาย

“พวกเราได้ทำในสิ่งที่ขัดต่อความเป็นมนุษย์” โอบาม่ากล่าว

องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกลุ่มนักสิทธิมนุษยชน เรียกร้องให้ดำเนินคดีทางอาญากับผู้กระทำผิด

ด้านซีไอเอได้ออกแถลงการณ์ในเว็บไซต์ว่า โครงการและวิธีการต่างๆ ในรายงานของคณะกรรมข่าวกรอง เดิมทีแล้วเป็นวิธีการเพื่อใช้หาตัวโอซามา บิน ลาเดน โดยทั้งกระทรวงยุติธรรมและทำเนียบขาวสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์ช ดับเบิลยู บุช ได้มีส่วนรู้เห็นในโครงการนี้ตั้งแต่แรก

จอร์จ เทเน็ท หัวหน้าของซีไอเอภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ยืนยันว่าได้รับไฟเขียวจากตัวประธานาธิบดีบุชเอง

“ในตอนนั้นสหรัฐประสบกับภัยคุกคามรายแรง โครงการดังกล่าวมีผลอย่างมากในการช่วยเหลือชาวสหรัฐและพันธมิตร ในการป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีครั้งใหญ่บนแผ่นดินสหรัฐอีก” เทเน็ทกล่าว