ม็อบฮ่องกงแบ่ง2สีหนุน-ต้านประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย

กลุ่มหนุนตำรวจฮ่องกงติดริบบิ้นสีน้ำเงิน ต้าน กลุ่มประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ติดริบบิ้นเหลือง 

เมื่อวันที่ 6 ต.ค.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงได้ใช้ริบบิ้นสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ในการเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงการเริ่มการประท้วง ล่าสุดมีการรวมกลุ่มของผู้ที่ไม่พอใจการประท้วง และสนับสนุนตำรวจชาวฮ่องกง โดยใช้ “ริบบิ้นสีน้ำเงิน” ซึ่งเป็นสีของเครื่องแบบตำรวจเป็นสัญลักษณ์ และมีการรวมกลุ่มกันผ่านโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก

ตัวแทนผู้ติดริบบิ้นสีน้ำเงินหลายคนได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เป็นเพียงแค่ประชาชนที่ต้องการแสดงการสนับสนุนให้กับกองกำลังตำรวจอันเป็นที่พึ่งพาได้ของพลเมืองเท่านั้น

“เจ้าหน้าที่บางรายบอกว่าไม่ได้นอนหลับมาเป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมงแล้วถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ก็เกินกว่าที่ฮ่องกงจะรับไหว” โจซิน หนึ่งในผู้สวมริบบิ้นสีน้ำเงิน ที่เรียกตัวเองว่า “พันธมิตรผู้สนับสนุนตำรวจ”กล่าว

ด้าน บลูมเบิร์กรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องยอมเปิดทางให้ข้าราชการสามารถเดินทางเข้าทำงานที่ศูนย์ราชการได้ ก่อนเส้นตายที่รัฐบาลกำหนดในช่วงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สามารถรื้อถอนสิ่งกีดขวางหน้าศูนย์ราชการได้ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ขัดขวาง

อย่างไรก็ดี แกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม ย่านแอดมายรัลตี้ ซึ่งเป็นย่านที่ศูนย์ราชการและย่านการค้า ยังคงยืนยันที่จะปักหลักชุมนุมหน้าศูนย์ราชการต่อไป เช่นเดียวกับผู้ชุมนุมที่ย่านมงก๊กซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญปฏิเสธว่า จะไม่ยอมสลายการชุมนุมอย่างเด็ดขาด

ถึงกระนั้น จำนวนผู้เข้าร่วมการชุมนุมกลับลดลงเป็นอย่างมาก   ขณะที่แนวโน้มผู้ให้เห็นด้วยกับการชุมนุมเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการประท้วงที่ยืดเยื้อ

ทั้งนี้ การชุมนุมในฮ่องกงที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 10 วัน มีขึ้นจากความไม่พอใจรัฐบาลปักกิ่งไม่ยอมให้ฮ่องกงมีการเลือกตั้งอย่างเสรี โดยกำหนดให้ผู้รับสมัครเลือกตั้งต้องเป็ฯผู้ที่ได้รับรองจากรัฐบาลแผ่นดินใหญ่เท่านั้น

ก่อนหน้านี้ สแตน ฮอกวุยหว่อง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาบริหารรัฐกิจและรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง กล่าวว่า มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงของนักศึกษาและพลเมืองชาวฮ่องกงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มจะเห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้านการประท้วงแล้วเช่นกัน โดยปัจจัยหลักคือผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและความต้องการประชาธิปไตยที่ขัดแย้งกัน

รายงานระบุว่า เหตุการณ์ที่กลุ่มคนที่ต่อต้านการประท้วงนับร้อยเข้ามาปั่นป่วนและโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงที่อยู่ในเขตมงก๊ก ภายหลังจากที่การประท้วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจต่อการปิดถนนของผู้ชุมนุม เพราะเป็นการรบกวนการจราจร รวมถึงบีบบังคับให้ธุรกิจต้องปิดตัวลงในช่วงวันชาติจีน ที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจฮ่องกงคึกคักที่สุดของปี

“การประท้วงกระทบชีวิตความเป็นอยู่ของคนจำนวนมาก ทั้งในด้านการคมนาคม ในด้านธุรกิจ รวมถึงมีชาวฮ่องกงที่ยังกังวลว่าหากการประท้วงทวีความรุนแรงขึ้นไปก็อาจจะซ้ำรอยกับการชุมนุมเทียนอันเหมิน”หว่อง กล่าว

ทั้งนี้ แม้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ทำให้การเจรจาระหว่างรัฐบาลและตัวแทนนักศึกษาต้องถูกยกเลิกไป แต่แถลงการณ์ของรัฐบาลยังระบุว่าพร้อมเปิดการเจรจาใหม่เสมอ อย่างไรก็ตามสหพันธ์นักศึกษาฮ่องกง (เอชเคเอฟเอส) ชี้ว่าจะไม่มีการพูดคุยใดๆ หากรัฐบาลไม่ทำการสืบสวนพฤติกรรมของตำรวจในมงก๊ก ที่ต้องสงสัยว่าจัดฉากความรุนแรงโดยว่าจ้างอันธพาลมาสร้างความวุ่นวาย