141บริษัทรัฐบาลจีนกำไรฮวบ30%

โพสต์ทูเดย์ — เศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกฉุดผลกำไรบริษัทของรัฐบาลจีนลดฮวบ แต่การเดินหน้ากวาดซื้อสินทรัพย์กลับเพิ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

เอพีอ้างรายงานของสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน วานนี้ว่า ธนาคารสายการบิน บริษัทน้ำมัน และบริษัทลงทุนต่างๆ ของรัฐบาลจีน รวม 141 แห่งทั่วประเทศ ต่างก็เผชิญกับผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลก จนทำให้ผลกำไรสุทธิหดหายลงไปถึง 30% ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6.96 แสนล้านหยวน (ราว 23.67 ล้านล้านบาท)

อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยของคณะกรรมการกำกับดูแลสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน กลับพบว่าจำนวนการถือครองสินทรัพย์ของบริษัทเหล่านี้กลับเพิ่มสูงขึ้น และยังเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดจากการบันทึกสิ้นปี 2551 ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 5.56 ล้านล้านหยวน (ราว 27.67 ล้านล้านบาท) หรือพุ่งขึ้น 8.6% จากปี 2550
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลสินทรัพย์ เป็นผู้ดูแลบริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมากของจีน อาทิ บริษัท น้ำมันไชน่า เนชันแนล แอนด์ ปิโตรเลียม คอร์ป (ซีเอ็นพีซี) บริษัท ไชน่า โมไบล์ สายการบินแอร์ ไชน่า และบริษัท ไชน่า ไลฟ์ อินชัวรันซ์

ขณะที่งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวน ที่ทางการจีนประกาศใช้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ได้ช่วยกระตุ้นให้จีดีพีของจีนในไตรมาส 2 ขยายตัวได้ถึง 7.9% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ 6.1%

ทางด้านหลิว หมิงกัง ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารของจีน ได้เรียกร้องให้ธนาคารทั่วประเทศพัฒนาปรับปรุงระบบการจัดการความเสี่ยงภายในให้มากขึ้น หลังจากที่อัตราการปล่อยกู้ใหม่เดือนส.ค.ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันแล้วในปีนี้

“ขณะที่การปล่อยกู้ของแบงก์มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงต่างๆ ในอุตสาหกรรมภาคธนาคารก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย” หลิว  หมิงกัง กล่าว

ทั้งนี้ การปล่อยกู้ใหม่ในจีนช่วง 8เดือนที่ผ่านมาจนถึงเดือน ส.ค. ได้พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 8.15 ล้านล้านหยวน (ราว 40.8ล้านล้านบาท) หรือสูงเกือบ 2 เท่าจากการปล่อยกู้ทั้งหมดในปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่4.91 ล้านล้านหยวน (ราว 24.2 ล้านล้านบาท) ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าอาจนำไปสู่ปัญหาฟองสบู่ในเศรษฐกิจจีนโดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์