จีเอ็มเรียกรถคืนอีก 8.4 ล้านคัน

จีเอ็มประกาศเรียกรถยนต์คืนในสหรัฐอีก 8.4 ล้านคัน หลังพบปัญหาในสวิทช์จุดระเบิดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์

เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) เผชิญวิกฤตเรียกรถคืน โดยล่าสุดมีการเรียกรถคืนอีก 8.4 ล้านคัน ทั่วภูมิภาคอเมริกาเหนือ หลังตรวจพบปัญหาในสวิทช์จุดระเบิดเชื้องเพลิงของเครื่องยนต์ หลังเพิ่งจะเรียกรถคืนจากปัญหาถุงลมนิรภัย 7.6 ล้านคันก่อนหน้านี้

รายงานจากสถานีโทรทัศน์บีบีซีแห่งอังกฤษระบุว่า รถยนต์ที่เรียกคือส่วนใหญ่คือรถซีดานที่ผลิตขึ้นระหว่างปี 1997 - 2014 โดยระหว่างนี้มีรายงานอุบัติเหตุรถชนเกิดขึ้น 7 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 8 คน และเสียชีวิต 3 คน

ด้านจีเอ็มได้ปรับเพิ่มตัวเลขงบประมาณที่จะใช้ในการแก้ไขความบกพร่องที่เกิดขึ้น รวมถึงการชดเชยต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อครั้งนี้จากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะอยู่ที่ 700 ล้านเหรียญสหรัฐ มาอยู่ที่ 1,200 เหรียญสหรัฐ พร้อมระบุชัดว่า ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ นับเป็นการดำเนินมาตรการเพื่อความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท และเป็นการดำเนินการที่ทางจีเอ็มยินดีแบกรับ เนื่องจากความปลอดภัยของลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ก่อนหน้านี้ ทางการเขตออเรนจ์ในรัฐแคลิฟอร์เนียได้ยื่นฟ้องแพ่งกับทางจีเอ็มเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าการปิดบังข้อมูลของจีเอ็มเพื่อประโยชน์เหนือคู่แข่งจากสาธารณะทำให้ชีวิตของผู้โดยสารตกอยู่ในอันตราย

ทั้งนี้ นับตั้งแต่มีการเรียกคืน ส่งผลให้หุ้นของจีเอ็มในตลาดปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทว่าการเรียกคืนครั้งล่าสุดนี้ทำให้หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ 0.55%