posttoday

"ซีพีเอฟ"โต้สื่อผู้ดีโจมตีเอี่ยวใช้แรงงานทาส

11 มิถุนายน 2557

เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารสาขาในอังกฤษ ออกรายงานชี้แจงกรณีเดอะการ์เดียนโจมตีบริษัทใช้แรงงานทาส โต้อย่ารายงานเพียงด้านเดียว ชี้บริษัทเดินหน้าแก้ปัญหาต่อเนื่อง ยินดีเร่งตรวจสอบทั้งระบบ

เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารสาขาในอังกฤษ ออกรายงานชี้แจงกรณีเดอะการ์เดียนโจมตีบริษัทใช้แรงงานทาส โต้อย่ารายงานเพียงด้านเดียว ชี้บริษัทเดินหน้าแก้ปัญหาต่อเนื่อง ยินดีเร่งตรวจสอบทั้งระบบ

บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) สาขาในอังกฤษ ออกรายงานตอบโต้กรณีหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษ เปิดเผยรายงานเชิงสืบสวนตีแผ่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการใช้แรงงานทาสในอุตสาหกรรมประมงในไทย ซึ่งเนื้อหาของรายงานได้มีการกล่าวอ้างถึงกรณีของบริษัทซีพีเอฟว่ามีการซื้อชิ้นส่วนเนื้อปลา ซึ่งเป็นส่วนผสมของอาหารของกุ้งเลี้ยงในฟาร์มของบริษัทจากซัพพลายเออร์ที่เป็นเจ้าของหรือดำเนินการหรือซื้อจากเรือประมงที่กระทำต่อแรงงานเยี่ยงทาส

ในประเด็นดังกล่าว ทางซีพีเอฟ สาขาในอังกฤษ ระบุว่า รับรู้ถึงปัญหาการใช้แรงงานทาสในกระบวนการจัดหาชิ้นส่วนเนื้อปลาเป็นอย่างดี เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวอาจเป็นผลพวงของการประมงที่ผิดกฎหมาย ไม่ได้อยู่ในระบบควบคุมและไม่ได้มีใบอนุญาต ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดปัญหาทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในที่สุด พร้อมระบุว่า ความเคลื่อนไหวของสื่ออังกฤษครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากความพยายามในการล๊อบบี้รัฐบาลไทยเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวล้มเหลวลง จึงส่งผลให้ทางเดอะการ์เดียน เปลี่ยนเป้าหมายมาที่บริษัทรายใหญ่เพื่อกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการแก้ปัญหาดังกล่าวในทันที

"เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนและรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทางบริษัทจะเร่งดำเนินการตามกระบวนการตรวจสอบภายในทั้งระบบเพื่อสามารถกล่าวประณามการใช้แรงงานทาสที่อาจเกิดขึ้นในทุกภาคส่วนของซัพพลายเชนของบริษัทในทันที ตลอดจนจะร่วมกันวางระบบตรวจสอบตามจุดต่างๆเพื่อให้แน่ใจว่าซัพพลายเชนของบริษัทไม่มีและจะไม่มีการใช้แรงงานทาสในระบบ"

ขณะที่แผนระยะยาว หมายรวมถึงการยกระดับมาตรการคุมเข้มกระบวนการจัดหาชิ้นส่วนเนื้อปลาเพื่อลดปัญหาการประมงโดยผิดกฏหมาย ตลอดจนเร่งผลักดันการพัฒนารูปแบบการประมงเพื่อปกป้องทะเลไทยอย่างยั่งยืน

ทางซีพีเอฟ อธิบายเสริมว่า มีการใช้ชิ้นส่วนเนื้อปลา เป็นส่วนผสมเพียง 10% ของอาหารกุ้งเลี้ยงเท่านั้น และทางบริษัทมีโรงงานผลิตอาหารเลี้ยงสัตว์ทางทะเลในไทย 5 แห่งซึ่งล้วนมีใบรับรองจากโกลบอล อควาคัลเชอร์ อลิอันซ์ ซึ่งเป็นสมาคมการค้าที่ไม่แสวงผลกำไรที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐ

ในรายงานดังกล่าว ยังระบุว่า ทางซีพีเอฟ เดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เกิดการแก้ปัญหาในประเด็นดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งหมายรวมถึงการให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่อพัฒนาและทบทวนกฎหมายการประมงนับตั้งแต่ปี 2013 อีกด้วย

พร้อมกันนี้ ทางซีพีเอฟเปิดเผยว่า ได้ให้ความร่วมมือกับทางหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนในการให้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเดอะการ์เดียน ให้ความสำคัญในการตีแผ่ประเด็นการใช้แรงงานทาสแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

"ดูเหมือนว่า ทางเดอะการ์เดียน ตัดสินใจที่จะตีแผ่ประเด็นการใช้แรงงานอย่างเดียว โดยไม่มองภาพรวมในความจริงที่ว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาการประมงอยู่แล้ว"

"ทางซีพีมีทางเลือกที่จะเลิกพึ่งพาชิ้นส่วนเนื้อปลาเหล่านั้นทั้งหมด เพราะทางบริษัทสามารถผลิตโปรตีนทดแทนเพื่อใช้ในอาหารกุ้งเลี้ยงแล้ว และอาจมีการใช้โปรตีนทดแทนดังกล่าวทดแทนภายในปี 2021 หากจำเป็น กระนั้นก็ตาม ทางซีพี เลือกที่จะทำตามสิ่งที่ถูกต้องและดำเนินการอย่างรับผิดชอบ ด้วยการใช้ศักยภาพทางการพาณิชย์ที่มีการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาในประเด็นดังกล่าวให้ดีขึ้น" รายงานกล่าวเสริม

"ซีพีเอฟ"โต้สื่อผู้ดีโจมตีเอี่ยวใช้แรงงานทาส

 

"ซีพีเอฟ"โต้สื่อผู้ดีโจมตีเอี่ยวใช้แรงงานทาส

 

"ซีพีเอฟ"โต้สื่อผู้ดีโจมตีเอี่ยวใช้แรงงานทาส

 

"ซีพีเอฟ"โต้สื่อผู้ดีโจมตีเอี่ยวใช้แรงงานทาส