posttoday

นิวส์วีคแฉแม่พระชาวเขมรส่อกุเรื่องลวงโลก

01 มิถุนายน 2557

นิตยสารนิวส์วีคแฉ "โสมาลี มัม" นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีชาวเขมรอาจกุเรื่องชีวิตรันทดขึ้นมาเอง ก่อนเจ้าตัวจประกาศลาออกจากมูลนิธิ

นิตยสารนิวส์วีคแฉ "โสมาลี มัม" นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีชาวเขมรอาจกุเรื่องชีวิตรันทดขึ้นมาเอง ก่อนเจ้าตัวจะประกาศลาออกจากมูลนิธิ

จากอดีตโสเภณีเด็กสู่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีผู้ติด 1ใน 100บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกจากนิตยสารไทมส์ วันนี้ โสมาลี มัม แม่พระชาวกัมพูชา ถูกแฉว่าเป็นจอมลวงโลก หลังกุเรื่องโกหกเกี่ยวกับเส้นทางการต่อสู้ของตัวเอง

ชื่อของ โสมาลี มัม (somaly mam) เป็นที่รู้จักในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีที่โดดเด่นที่สุดในเอเชีย

สตรีชาวกัมพูชาวัย 45 ปี อดีตโสเภณีเด็กผู้พลิกชีวิตมาเป็นนักต่อสู้เพื่อเหยื่อค้าแรงงานทางเพศเด็กหญิงและผู้หญิงในบ้านเกิดและประเทศเพื่อนบ้าน

ข้อมูลจากหนังสือชีวประวัตของเธอที่ชื่อ 'The Road of Lost Innocence' ระบุว่าโสมาลี มัมถูกตาแท้ๆที่ติดพนันและขี้เหล้า เลี้ยงดูมาเยี่ยงทาส มักโดนทุบตีเป็นประจำ จนในที่สุดเธอถูกขายอีกเข้าซ่องในกรุงพนมเปญและอยู่ในนั้นนานเกือบ 10 ปี จนกระทั่งตัดสินใจหลบหนี หลังจากเห็นเพื่อนโสเภณีรายหนึ่งถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา

ต่อมาเริ่มระดมทุนช่วยเหลือเด็กหญิงและสตรีให้รอดพ้นจากการถูกบังคับค้าประเวณี ผ่านองค์กรปฏิบัติการเพื่อสตรีในสถานการณ์คับขัน (AFESIP) และมูลนิธิโสมาลี มัมที่เธอก่อตั้งขึ้น 

การเดินสายกระทบไหล่คนดังทั่วโลก ส่งผลให้เธอได้แรงหนุนจากบุคคลสำคัญอย่างโอปรา วินฟรีย์ สมเด็จพระราชนีโซเฟียแห่งสเปน  ซูซาน ซาแรนดอน เชอริล แซนเบิร์ก  ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากหลากหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นรางวัลด้านการต่อต้านค้ามนุษย์จากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา  หนึ่งในสตรีแห่งปีของนิตยสาร "เกลเมอร์" ติดทำเนียบฮีโร เอเชียของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ในปี 2549  รวมถึงติดอันดับหนึ่งในร้อยบุคคลทรงอิทธิพลคนของนิตยสารไทม์   เมื่อปี 2009 ปัจจุบันมีผู้ติิดตามทวิตเตอร์ @SomalyMam มากกว่า 4 แสนคน

แต่วันนี้ แม่พระผู้ใจบุญชาวกัมพูชาได้ถูกแฉว่าเป็นจอมลวงโลก หลังจาก นิตยสารนิวส์วีค ฉบับวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมาได้นำเสนอเรื่องราวของเธอขึ้นปกโดยใช้ชื่อว่า "โสมาลี มัม นักบุญและคนบาปในวงการค้ามนุษย์" พร้อมตั้งคำถามว่า "การที่เธอช่วยเหลือเด็กหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนในกัมพูชาสำคัญหรือไม่ หากเรื่องราวบางส่วนในชีวิตของเธอไม่เป็นความจริง"  

โดยรายงานชิ้นดังกล่าวที่เขียนโดยไซมอน มาร์คส์ เปิดโปงข้อมูลอันขัดแย้งกับที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีว่าแท้จริงแล้ววีรกรรมทั้งหมดอาจเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาโกหกทั้งเพ

ตั้งแต่เรื่องชีวิตวัยเด็กที่ถูกเลี้ยงเหมือนทาส ภาพความรันทดในฐานะโสเภณีเด็กนาน10ปีเต็ม การทารุณกรรมที่เธอระบุว่าเคยถูกชอร์ตด้วยไฟฟ้าพ่วงสายจากแบตเตอรีรถยนต์ และเคยเห็นโสเภณีคนหนึ่งถูกยิงตายต่อหน้า เรื่องที่เธอโดนข่มขืน กรณีลูกสาวของเธอถูกแก๊งค้ามนุษย์ลักพาตัวไปเพื่อแก้แค้นงานที่เธอทำ แต่ภายหลังถูกแฉว่าลูกสาวหนีออกจากบ้านเอง 

หนึ่งในข้อหาที่อื้อฉาวที่สุดคือการกล่าวหาว่า เธอยุยงให้หญิงสาวคนอื่นที่ไม่เคยตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ให้โกหกด้วยว่าถูกข่มขืน ถูกล่วงละเมิด เพื่อดึงเงินในกระเป๋าของเศรษฐีใจบุญทั้งหลาย        

อย่างไรก็ตาม ผลสะเทือนจากรายงานชิ้นนี้ ทำให้คณะกรรมการมูลนิธิโสมาลี มัม มอบหมายให้บริษัททนายความ กู้ดวิน พร้อคเตอร์ สอบสวนและหาข้อสรุปภายใน 2 เดือน

นำไปสู่การประกาศลาออกจากมูลนิธิที่เธอก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

ปิดฉากเส้นทางการต่อสู้แม่พระชาวกัมพูชา 'โสมาลี มัม'