นิวส์วีคแฉแม่พระชาวเขมรส่อกุเรื่องลวงโลก
นิตยสารนิวส์วีคแฉ "โสมาลี มัม" นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีชาวเขมรอาจกุเรื่องชีวิตรันทดขึ้นมาเอง ก่อนเจ้าตัวจประกาศลาออกจากมูลนิธิ
นิตยสารนิวส์วีคแฉ "โสมาลี มัม" นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีชาวเขมรอาจกุเรื่องชีวิตรันทดขึ้นมาเอง ก่อนเจ้าตัวจะประกาศลาออกจากมูลนิธิ
จากอดีตโสเภณีเด็กสู่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิสตรีผู้ติด 1ใน 100บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกจากนิตยสารไทมส์ วันนี้ โสมาลี มัม แม่พระชาวกัมพูชา ถูกแฉว่าเป็นจอมลวงโลก หลังกุเรื่องโกหกเกี่ยวกับเส้นทางการต่อสู้ของตัวเอง
ชื่อของ โสมาลี มัม (somaly mam) เป็นที่รู้จักในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีที่โดดเด่นที่สุดในเอเชีย
สตรีชาวกัมพูชาวัย 45 ปี อดีตโสเภณีเด็กผู้พลิกชีวิตมาเป็นนักต่อสู้เพื่อเหยื่อค้าแรงงานทางเพศเด็กหญิงและผู้หญิงในบ้านเกิดและประเทศเพื่อนบ้าน
ข้อมูลจากหนังสือชีวประวัตของเธอที่ชื่อ 'The Road of Lost Innocence' ระบุว่าโสมาลี มัมถูกตาแท้ๆที่ติดพนันและขี้เหล้า เลี้ยงดูมาเยี่ยงทาส มักโดนทุบตีเป็นประจำ จนในที่สุดเธอถูกขายอีกเข้าซ่องในกรุงพนมเปญและอยู่ในนั้นนานเกือบ 10 ปี จนกระทั่งตัดสินใจหลบหนี หลังจากเห็นเพื่อนโสเภณีรายหนึ่งถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา
ต่อมาเริ่มระดมทุนช่วยเหลือเด็กหญิงและสตรีให้รอดพ้นจากการถูกบังคับค้าประเวณี ผ่านองค์กรปฏิบัติการเพื่อสตรีในสถานการณ์คับขัน (AFESIP) และมูลนิธิโสมาลี มัมที่เธอก่อตั้งขึ้น
การเดินสายกระทบไหล่คนดังทั่วโลก ส่งผลให้เธอได้แรงหนุนจากบุคคลสำคัญอย่างโอปรา วินฟรีย์ สมเด็จพระราชนีโซเฟียแห่งสเปน ซูซาน ซาแรนดอน เชอริล แซนเบิร์ก ฯลฯ นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากหลากหลายสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นรางวัลด้านการต่อต้านค้ามนุษย์จากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา หนึ่งในสตรีแห่งปีของนิตยสาร "เกลเมอร์" ติดทำเนียบฮีโร เอเชียของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ในปี 2549 รวมถึงติดอันดับหนึ่งในร้อยบุคคลทรงอิทธิพลคนของนิตยสารไทม์ เมื่อปี 2009 ปัจจุบันมีผู้ติิดตามทวิตเตอร์ @SomalyMam มากกว่า 4 แสนคน
แต่วันนี้ แม่พระผู้ใจบุญชาวกัมพูชาได้ถูกแฉว่าเป็นจอมลวงโลก หลังจาก นิตยสารนิวส์วีค ฉบับวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมาได้นำเสนอเรื่องราวของเธอขึ้นปกโดยใช้ชื่อว่า "โสมาลี มัม นักบุญและคนบาปในวงการค้ามนุษย์" พร้อมตั้งคำถามว่า "การที่เธอช่วยเหลือเด็กหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนในกัมพูชาสำคัญหรือไม่ หากเรื่องราวบางส่วนในชีวิตของเธอไม่เป็นความจริง"
โดยรายงานชิ้นดังกล่าวที่เขียนโดยไซมอน มาร์คส์ เปิดโปงข้อมูลอันขัดแย้งกับที่เธอเคยให้สัมภาษณ์ตามสื่อต่างๆตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีว่าแท้จริงแล้ววีรกรรมทั้งหมดอาจเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาโกหกทั้งเพ
ตั้งแต่เรื่องชีวิตวัยเด็กที่ถูกเลี้ยงเหมือนทาส ภาพความรันทดในฐานะโสเภณีเด็กนาน10ปีเต็ม การทารุณกรรมที่เธอระบุว่าเคยถูกชอร์ตด้วยไฟฟ้าพ่วงสายจากแบตเตอรีรถยนต์ และเคยเห็นโสเภณีคนหนึ่งถูกยิงตายต่อหน้า เรื่องที่เธอโดนข่มขืน กรณีลูกสาวของเธอถูกแก๊งค้ามนุษย์ลักพาตัวไปเพื่อแก้แค้นงานที่เธอทำ แต่ภายหลังถูกแฉว่าลูกสาวหนีออกจากบ้านเอง
หนึ่งในข้อหาที่อื้อฉาวที่สุดคือการกล่าวหาว่า เธอยุยงให้หญิงสาวคนอื่นที่ไม่เคยตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ให้โกหกด้วยว่าถูกข่มขืน ถูกล่วงละเมิด เพื่อดึงเงินในกระเป๋าของเศรษฐีใจบุญทั้งหลาย
อย่างไรก็ตาม ผลสะเทือนจากรายงานชิ้นนี้ ทำให้คณะกรรมการมูลนิธิโสมาลี มัม มอบหมายให้บริษัททนายความ กู้ดวิน พร้อคเตอร์ สอบสวนและหาข้อสรุปภายใน 2 เดือน
นำไปสู่การประกาศลาออกจากมูลนิธิที่เธอก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
ปิดฉากเส้นทางการต่อสู้แม่พระชาวกัมพูชา 'โสมาลี มัม'