posttoday

มะกันแถลงผิดหวังไทยรัฐประหาร

23 พฤษภาคม 2557

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังกองทัพไทยทำรัฐประหาร ลั่นทบทวนความสัมพันธ์กองทัพ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังกองทัพไทยทำรัฐประหาร ลั่นทบทวนความสัมพันธ์กองทัพ

จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยเมื่อวันที่ 22 พ.ค. โดยระบุว่า ทางสหรัฐรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของกองทัพไทยที่งดใช้รัฐธรรมนูญ และยึดอำนาจรัฐบาล ภายหลังจากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองมายาวนาน โดยมองว่า ไม่มีเหตุผลว่าชอบด้วยกฎหมายในการทำรัฐประหารครั้งนี้

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ระบุอีกว่า รู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ระบุว่าขณะนี้ผู้นำทางการเมืองจากหลายพรรคการเมืองของไทย ถูกควบคุมตัวอยู่ โดยสหรัฐเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว เช่นเดียวกับรายงานข่าวที่มีการระงับการถ่ายทอดออกอากาศสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง

"ผมขอเรียกร้องให้มีการฟื้นรัฐบาลของประชาชนในทันที กลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเคารพในสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน เช่นเสรีภาพของสื่อมวลชน เส้นทางสำหรับประเทศไทยต่อจากนี้ ต้องหมายรวมถึงการจัดการเลือกตั้งที่สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนในประเทศ" แถลงการณ์ ระบุ

แถลงการณ์ระบุต่ออีกว่า แม้สหรัฐ จะให้ความสำคัญกับความเป็นพันธมิตรอันยาวนานกับประชาชนไทย แต่การกระทำของกองทัพ อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางกองทัพ

"ในขณะนี้ สหรัฐกำลังทบทวนความช่วยเหลือและการมีส่วนร่วมในประเด็นต่างๆของกองทัพสหรัฐ อันเป็นไปตามหลักกฎหมายของสหรัฐ" แถลงการณ์ ระบุ

ขณะเดียวกัน  โฆษกของผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการยึดอำนาจของทหารในประเทศไทยเช่นเดียวกัน

"เราติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยด้วยความกังวลเป็นอย่างยิ่ง ทหารจะต้องให้การยอมรับและเคารพอำนาจฝ่ายพลเรือนภายใต้รัฐธรรมนูญว่าเป็นหลักการพื้นฐานของธรรมาธิบาลด้านประชาธิปไตย ทั้งยังต้องยึดถือมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล รวมทั้งเสรีภาพสื่อ ที่สำคัญที่สุดคือประเทศไทยจะต้องกลับเข้าสู่กระบวนการทางด้านประชาธิปไตยที่มีความชอบธรรมโดยเร็ว เราจึงขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและน่าเชื่อถือโดยเร็วที่สุดที่สามารถจะทำได้" แถลงการณ์ ระบุ

พร้อมกันนี้ ทางอียู ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใชัความยับยั้งชั่งใจ และทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศอีกด้วย