นานาชาติยังระดมกำลังค้นหาเครื่องบินมาเลย์

จีนส่งเรือดำน้ำกู้ภัยค้นหาเครื่องบินที่สูญหาย ขณะที่เวียดนามตระเวนตรวจสอบทางอากาศ ขณะที่ทางการมาเลเซียเผยเป็นไปได้ที่เครื่องบินจะกลับลำ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความคืบหน้าเหตุเครื่องบินโบอิง 777-200ER ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 ที่ขาดการติดต่อในเวลา 2:40 น. วันเสาร์ หลังเดินทางออกจากกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อเวลา 0:41 น. พร้อมผู้โดยสาร 227 คน และลูกเรืออีก 12 คน ซึ่งเป็นเวลานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว

ล่าสุด ภารกิจการค้นหายังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่ลดละ ท่ามกลางความช่วยเหลือของนานาชาติ ที่ส่งทีมกู้ภัยทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ โดยเครื่องบินของเวียดนาม ยังเดินหน้าค้นหาซากเครื่องบินของมาเลเซียแอร์ไลน์ในทะเลจีนใต้ต่อไป โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบเกาะโท ชู

ทั้งนี้ บริเวณน่านน้ำดังกล่าว เป็นจุดที่พบคราบน้ำมันขนาดกว้าง 10 กิโลเมตร ยาว 15 กิโลเมตร ที่ปรากฏเห็นอย่างชัดเจนใกล้กับเกาะโท ชู ทำให้คาดกันว่า คราบน้ำมันดังกล่าวอาจเป็นของเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ที่ตกก็เป็นได้

นอกจากนี้ จีนได้ส่งเรือกู้ภัย 2 ลำ พร้อมทั้งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ โดยมีเจ้าหน้าที่แพทย์ นักประดาน้ำ นาวิกโยธิน และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิต อุปกรณ์สำรวจ อาหารและน้ำดื่มเตรียมพร้อมไว้ด้วย ในระหว่างปฏิบัติการค้นหาและกำหนดจุดที่เครื่องบินตก แต่การปูพรมค้นหาก็ยังไม่พบวี่แววของบริเวณที่จะบ่งชี้ว่ามีซากของเครื่องบินจมอยู่

สำหรับความเคลื่อนไหวของทางการมาเลเซีย ได้ขยายขอบเขตปฏิบัติการค้นหาครอบคลุมแนวชายฝั่งตะวันตกที่หันหน้าไปทางเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย และขอให้มิตรชาวอินโดนีเซียช่วยมาเลเซียค้นหาในครั้งนี้ จนถึงขณะนี้ การค้นหายังมุ่งเน้นทางน้ำ บริเวณทิศตะวันออก ในทะเลจีนใต้ รวมถึงหาซากเครื่องบินในชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย

ด้านกองทัพอากาศมาเลเซีย เผยความเป็นไปได้ของสาเหตุที่เครื่องบินหายไปจากจอเรดาร์ อาจมาจากนักบินพยายามกลับลำเครื่องบิน และมุ่งหน้ากลับกัวลาลัมเปอร์ โดยมีหลักฐานสนับสนุนจากข้อมูลเรดาร์ของพลเรือน

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอมาเลเซียแอร์ไลน์ ตอบโต้ว่า เรื่องดังกล่าวไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะหากเครื่องบินกลับลำกลางอากาศ ระบบเครื่องบินจะส่งสัญญาณเตือน ซึ่งหมายความว่านักบินไม่สามารถบินต่อได้ แต่สาเหตุที่แท้จริงยอมรับว่า ทุกคนยังสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น