"ยูเอ็น"ตีแผ่คิมจองอึนนิยมของหรูหรายิ่งกว่าพ่อ

รายงานยูเอ็นเปิดเผย ผู้นำเกาหลีเหนือรุ่นที่ 3 นิยมของหรูหรามากกว่าพ่อ ขณะที่ประชาชนประสบภาวะอดอยาก

รายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยว่า การใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยของคิม จองอึนผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบันนั้นมากกว่าการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของคิม จงอิล พ่อของคิม จองอึนและเป็นผู้นำรุ่นที่ 2 เสียอีก

รายงานจำนวน 372 หน้าที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมาหลังจากที่มีการสืบสวนมาเป็นเวลา 1 ปี ระบุว่า คิม จองอึนนั้นไม่เพียงแต่มีโรงภาพยนตร์ส่วนตัวสำหรับเพื่อนสนิท 1,000 คน ยังมีความพยายามที่จะนำเข้ารถยนต์เอร์ซิเดส-เบนซ์ อุปกรณ์บันทึกเสียงที่หรูหรา และเปียโนอีกหลายสิบหลังอีกด้วย

ทั้งนี้ คิม จองอิล พ่อของคิมจองอึน ผู้นำรุ่นที่ 2 ที่เสียชีวิตในปี 2011 นั้นมีชื่อเสียงในทางลบเกี่ยวกับการใช้จ่ายที่ฟุ่ยเฟือย ในขณะที่ ประชาชนในประเทศอดอยาก โดยมีรายงานระบุว่า คิม จงอิลมีพระราชวัง 17 แห่งในประเทศ รวมไปถึงยังชื่นชอบเอลวิส เพรสลีย์ และภาพยนตร์อเมริกัน ซึ่งเคยมีรายงายพบอีกว่า ใช้เงินในการนำเข้าบรั่นดีจากต่างประเทศราว 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และมีรถยนต์หรูหราอีกหลายสิบคันด้วย

“ค่าใช้จ่ายของทางการเกาหลีเหนือพุ่งไปอยู่ที่ 645.8 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2012 ซึ่งนับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมาก มากกว่าค่าเฉลี่ยที่ 300 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ภายใต้การปกครองของคิม จองอิล” รายงายของยูเอ็น ระบุ โดยอ้างบทความของหนังสือพิมพ์ เดอะ มิลเรอร์ในปี 2013

นอกจากนี้แล้ว คณะผู้สืบสวนของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงของเกาหลีเหนือ รวมไปถึงคิม จองอึน ผู้นำประเทศควรจะได้รับการพิจารณาคดีระหว่างประเทศ ในการออกคำสั่งให้มีการทรมาน มีความอดอยาก รวมไปถึงการสังหารผู้คนมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เปรียบเทียบได้การการกรทำอันโหดร้ายสมัยนาซี

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ส่งผลให้คณะผู้สืบสวนของยูเอ็น ส่งจดหมายไปถึงคิม โดยแนะให้นำยูเอ็นนั้นส่งเกาหลีเหนือไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้ถูกกล่าวหา รวมไปถึงตัวคิมนั้นเป็นผู้รับผิดชอบต่อการกระทำเหล่านี้

ทั้งนี้ การประณามในที่สาธารณะที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และการส่งคำเตือนไปยังผู้นำประเทศโดยยูเอ็นนั้นมีความเป็นไปได้ว่าเพื่อต่อต้านคิม รวมไปถึงเป็นความพยายามที่จะให้คิมควบคุมการเสริมสร้างอาวุธนิวเคลียร์ และควบคุมการเผชิญหน้าที่ก้าวร้าวกับเกาหลีใต้ และชาติตะวันตก

อย่างไรก็ตาม ทางการของเกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ถูกระบุไว้ในรายงาน โดยระบุว่าสิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลเท็จที่อ้างอิงจากตัวประกันซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น

รายงานของยูเอ็นที่ระบุเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ
-แทบจะไม่มีการยอมรับสิทธิ์ไปจนถึงเสรีภาพทางความคิด มโนธรรม และศาสนา
- มีรูปแบบของการแบ่งแยกชนชั้น ซึ่งกระทบไปในทุกๆส่วนของชีวิต
- มีการเลือกปฏิบัติกับผู้หญิงที่อยู่ในทุกซอกหลืบของสังคม
- เกาหลีเหนือใช้อาหารเป็นหนทางในการควบคุมประชากร และระงับกสนช่วยเหลือต่างๆ ด้วยเหตุผลทางระบบ จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายแสนคน
- นักโทษทางการเมืองหลายแสนคนตายในสภาพที่โหดร้ายอย่างมากในค่ายนักโทษช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
- เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงนั้นใช้ความรุนแรง และการลงโทศที่ฝ่าฝืนสิทธิความเป็นมนุษย์ เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความกลัว