ที่สุดของหัวแร้ง
แม้อีแร้งทั้งหลายที่ Annapurna ประเทศเนปาล จะมีสถานภาพระดับโลก “ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต”
แม้อีแร้งทั้งหลายที่ Annapurna ประเทศเนปาล จะมีสถานภาพระดับโลก “ใกล้สูญพันธุ์อย่างวิกฤต” หรือ “ใกล้สูญพันธุ์” กันแทบทุกชนิด แต่ยังมีอีแร้งเหนืออีแร้ง ถือเป็นของแพงหมายเลข 1 มองแล้วปลาบปลื้มตื้นตันน้ำตาจะไหล ว่าไปโน่นแหะ
ชื่อของมันคือ SlenderBilled Vulture มีชื่อไทยที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไร “อีแร้งสีน้ำตาล” (ทำไมไม่ใช้ว่า “อีแร้งปากเรียว” ตามชื่ออังกฤษ ก็ไม่ทราบเหมือนกัน)
รูปร่างหน้าตาของโคตรอีแร้งตัวนี้ หาความเท่ไม่เจอ อย่าให้ผมบรรยายมากเลย ดูรูปประกอบเอาดีกว่า แต่กระนั้นมวลมหาประชาชนคนคลั่งอีแร้งที่โคจรมาแจมกัน ต่างซี้ดซ้าดกับ SlenderBilled Vulture กว่าตัวอื่นอย่างเห็นได้ชัด
เพราะนาทีนี้ มันหายากมากในโลก แม้แต่ดงอีแร้งอย่างที่เนปาลแห่งนี้ ก็หายากสุดๆ
อ้อ อยากโม้สักนิดถึงมวลมหาประชาชนคนคลั่งอีแร้ง พวกเราไม่ธรรมดาเลยนะ เป็นการรวมตัวกันของนักดูนกนานาชาติ เนปาล อเมริกา ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย โดยมีสาวญี่ปุ่นนักปีนเขา ผ่านมากรี๊ดเป็นกองเชียร์บางเวลา อิอิ
SlenderBilled Vulture ในอดีตเคยมีชุกชุม แต่พวกมันเจอผลกระทบจากการกินซากปศุสัตว์ที่ปนเปื้อนตัวยาไดโคลฟิแนก จนพากันร่วงหล่นจากฟ้าแทบสิ้นเผ่าพันธุ์
ปัจจุบันยังมีอยู่ในป่าเขมร เป็นพระเอกประจำ “ภัตตาคารแร้ง” ของเขมร การทำภัตตาคารแร้งที่นั่น เขาถึงขั้นฆ่าควายทั้งตัวให้แร้งลงกิน ใครอยากเห็นอีแร้งต้องควักกระเป๋าหลายหมื่นบาททีเดียว เพื่อให้ได้รับบริการอันนี้
สำหรับที่เนปาล ดร.โรเบิร์ต ดีแคนดีโด หัวหน้าทริปชาวอเมริกันของพวกผม ทดลองทำภัตตาคารแร้งบนภูเขาเป็นครั้งแรก แต่ไม่ทำอะไรหฤโหดแบบในเขมร เพียงแค่ซื้อกระดูกควายจากตลาดตีนเขามาแค่กะละมังเดียว แค่นี้ก็เรียก “แร้งสมจร” แทบทุกชนิดมาได้แล้ว ดูกันตาลายไปเลย
แค่ลงขันคนละ 400 รูปีเนปาล หรือ 100 กว่าบาทเท่านั้น เป็นค่ากระดูกควาย เงินแค่นี้ยังแถม “โมโม่” เกี๊ยวทิเบตร้อนๆ แสนอร่อยตอนมื้อค่ำอันหนาวเหน็บอีกด้วย ช่างเป็นวันแห่งความทรงจำอย่างแท้จริง