posttoday

คิดจะปราบคอร์รัปชั่นต้องเด็ดขาดอย่าง‘จีน’

17 ธันวาคม 2556

จีนลุยปราบคอร์รัปชั่น คิวล่าสุดคือผู้ทรงอิทธิพล "โจว หย่งคัง" ทุจริตในบริษัทน้ำมันแห่งชาติ

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

แม้จะย่างเข้าสู่บรรยากาศการนับถอยหลังปีใหม่ที่แสนรื่นรมย์กันทั่วโลกแล้ว ทว่าที่ประเทศจีนนั้น ปฏิบัติการป้องปรามและกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชัน กลับยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวันหยุด และมักกลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ระดับโลกอยู่หลายครั้ง เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ถูกควบคุมตัวหลายคนล้วนมีตำแหน่งเป็นถึงผู้บริหารระดับสูง ชนิดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีวันที่ถูกสอยร่วงลงมาได้

ล่าสุด บุคคลที่ถูกสอบในคดีคอร์รัปชันก็มาถึงคิวของ “โจว หย่งคัง” วัย 71 ปี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในแดนมังกร เพราะมีตำแหน่งเป็นถึง 1 ใน 9 สมาชิกถาวรคณะกรรมการกรมการเมือง ซึ่งกุมอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศเอาไว้

สื่อต่างประเทศหลายสำนัก เช่น บีบีซี และแอลเอ ไทม์ส รายงานว่า โจวกำลังถูกทางการกักบริเวณในบ้านพักระหว่างการสืบสวนสอบสวน โดยเป็นที่คาดว่ารัฐบาลจะประกาศข่าวอย่างเป็นทางการออกมาในสัปดาห์นี้ และจะเป็นบุคคลระดับสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ถูกสอบสวนในคดีคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ซึ่งรวมตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นผู้บริหารในบริษัทน้ำมันแห่งชาติ ไชน่า แนชันนัล ปิโตรเลียม คอมพานี (ซีเอ็นพีซี)

ทางการจีนยังได้เดินหน้าสอบปากคำเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีก 2 คน ในแวดวงบริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีน ซึ่งได้แก่ เหวิน ฉิงชาน ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีของซีเอ็นพีซี และ หวัง ลี่หัว ผู้บริหารของไชนาออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของปิโตรไชนา เพื่อขยายผลในคดีเดียวกันนี้แล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ในเดือน ส.ค. ทางการจีนได้ประกาศปลดและมีมาตรการลงโทษผู้บริหารไปถึง 5 คน ใน 2 บริษัทดังกล่าว จากความผิดวินัยร้ายแรงและการทุจริตรับสินบน

ทางด้านบีบีซีระบุว่า การดำเนินการกับโจว หย่งคัง นับเป็นการส่งสัญญาณว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง สามารถควบคุมอำนาจในประเทศได้แล้ว หลังจากที่เพิ่งขึ้นมาเป็นผู้นำเต็มตัวได้ราว 1 ปี จนสามารถฉีกธรรมเนียมเดิมๆ ในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่จะไม่มีการดำเนินคดีเอาผิดในเรื่องต่างๆ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์การเมืองจีนบางส่วนเชื่อว่า กรณีดังกล่าวอาจเป็นผลมาจากการแย่งชิงอำนาจของขั้วการเมืองภายในพรรคคอมมิวนิสต์มากกว่า ดังเช่นที่เกิดขึ้นมาแล้วกับ “ป๋อ ซีไหล” นักการเมืองดาวรุ่งอดีตเลขาธิการพรรคสาขานครฉงชิ่ง ซึ่งมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมในแนวทางของ เหมา เจ๋อตง