posttoday

เอ็นจีโอยุเขมรเรียกค่าเสียหายจากไทย

13 พฤศจิกายน 2556

กลุ่มเอ็นจีโอแนะรัฐบาลฮุน เซน เรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายจากไทย หลังศาลโลกตัดสินให้เขมรได้พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร

กลุ่มเอ็นจีโอแนะรัฐบาลฮุน เซน เรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายจากไทย หลังศาลโลกตัดสินให้เขมรได้พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร

เว็บไซต์วีโอเอ นิวส์ รายงานว่า กลุ่มองค์กรเอกชนต่างชาติและฝ่ายค้านกัมพูชา ได้เรียกร้องให้รัฐบาลนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน เรียกร้องขอค่าชดเชยจากประเทศไทยจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวปราสาทพระวิหาร ภายหลังจากที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) มีคำพิพากษาให้กัมพูชาได้พื้นที่รอบปราสาทพระวิหารไปเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา

บอร์เดอร์ คอมมิตตี ซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ด้านเขตแดนที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า การปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาก่อนหน้านี้ได้สร้างความเสียหายต่อปราสาทพระวิหารและบริเวณโดยรอบ ซึ่งฝ่ายไทยควรเป็นผู้ที่ต้องจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายดังกล่าว รวมถึงค่าชดเชยกรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกันอีกด้วย

“หากเราไม่เรียกร้องค่าชดเชย ประเทศไทยก็จะยังเดินหน้ากระทำการที่ไม่เคารพต่อไป” มาริธ ชาง ผู้ประสานงานชาวอเมริกันของบอร์เดอร์ คอมมิตตี กล่าว

ทางด้าน ยู โสคุนพนา นักวิจัยด้านนโยบายสาธารณะจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ให้ความเห็นว่า คำตัดสินของศาลนับเป็นประโยชน์ต่อทั้งฝ่ายกัมพูชาและไทย เนื่องจากไม่มีฝ่ายใดที่ได้ชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และศาลก็แนะนำให้ทั้งสองฝ่ายหันมาเจรจาเรื่องเขตแดนกันอีกครั้ง

ขณะที่ สม รังสี หัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลกรุงพนมเปญ หันมาให้ความสนใจกับประเด็นพิพาททางพรมแดนกับทางประเทศเวียดนามบ้าง เนื่องจากมีรายงานพบปัญหารุกล้ำชายแดนอยู่บ่อยครั้ง

“หากเรารักประเทศชาติจริง เราก็ไม่ควรรักแค่ครึ่งเดียว เราควรทุ่มเทความพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยจากการรุกรานของต่างชาติ และการกลืนกินประเทศจากชาติอื่น รัฐบาลควรมีนโยบายเดียวกันตั้งแต่ฝั่งตะวันออกจรดฝั่งตะวันตก เพื่อป้องกันการกลืนกินและการรุกล้ำแผ่นดินของเราในวันนี้” แถลงการณ์ของผู้นำฝ่ายค้านระบุ

ทั้งนี้ ฮุน เซน ได้แถลงผ่านทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศก่อนหน้านี้ว่า ชะง่อนผาปราสาทพระวิหารนั้นเป็นดินแดนอธิปไตยของกัมพูชา และต่อจากนี้ กัมพูชาจะมุ่งเน้นการสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาตามแนวชายแดน ซึ่งยังรวมถึงพื้นที่เขตแดนที่ยังคงเป็นข้อพิพาทให้ต้องเจรจากันอยู่ พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้ประชาชนและทหารอยู่ในความสงบ โดยกัมพูชานั้นจะเคารพในคำตัดสินของศาลโลก 

ทางด้าน ไพ สีพาน โฆษกรัฐบาลกัมพูชาได้ให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุช่วง เฮลโหล วีโอเอ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า คำตัดสินของศาลนับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือไปสู่สันติภาพและความสัมพันธ์อันดีที่จะเกิดขึ้นในบริเวณพระวิหาร

ขณะที่ พล.อ. เตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวเพียงว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงอยู่ในความสงบเรียบร้อย และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ต้องการสร้างความตึงเครียดใดๆ ขึ้นมา