ทั่วโลกยังไม่พร้อมรับมือสังคมผู้สูงอายุ

ดัชนีชี้วัดสากลเผย ทั่วโลกต้องสปีดรับมือสังคมผู้สูงอายุ ด้านไทยเกาะกลุ่มอยู่ระดับกลาง

กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอฟพีเอ) ร่วมกับเครือข่ายเฮลป์เอจ อินเตอร์เนชันนัล เปิดเผยผลการจัดอันดับดัชนีจับตาผู้สูงอายุโลกปี 2556 ว่า ประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกกำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจะแซงหน้าคนวัยเด็กภายในปี 2050 ทว่าประเทศส่วนใหญ่ยังไม่มีการเตรียมพร้อมรับมือสังคมผู้สูงอายุที่ดีพอ ขณะที่ประเทศไทยนั้นเกาะกลุ่มระดับกลางอยู่อันดับที่ 42 จากทั้งหมด 91 ประเทศ หรือดีที่สุดในกลุ่ม 6 ชาติอาเซียนที่สำรวจ

รายงานระบุว่า ประเทศไทยมีคะแนนดีที่สุดคือ สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ ซึ่งติดกลุ่มท็อปในอันดับที่ 8 ทว่าสถานะการรักษาพยาบาลกลับอยู่ในปานกลางอันดับที่ 46 ส่วนในด้านความมั่นคงทางการเงินนั้นอยู่อันดับที่ 59 และด้านการ จ้างงานและการศึกษาอยู่อันดับที่ 78

ดัชนีโกลบอล เอจ วอทช์ ยังระบุว่า 10 ประเทศที่มีการจัดการด้านผู้สูงอายุดีที่สุดนั้นล้วนแล้วแต่เป็นประเทศพัฒนาแล้วทั้งสิ้น นำโดย สวีเดน นอร์เวย์ และเยอรมนี

ขณะที่ในกลุ่ม 5 ประเทศบริกส์คือบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้นั้น แม้เศรษฐกิจจะเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีมานี้ ทว่าการรับมือสังคมผู้สูงอายุกลับยังไม่มีการเตรียมพร้อมเท่าที่ควร โดยจีนอยู่ในอันดับที่ 35 และอินเดียที่ 73

ทั้งนี้ หลายประเทศต่างปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้สูงอายุ โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องนี้มีความซับซ้อนและเป็นเรื่องเชิงสังคมที่ละเอียดอ่อนบนค่าใช้จ่ายการดูแลที่สูง

อย่างไรก็ตาม ซิลเวีย สเตฟาโนนี ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารของเฮลป์ เอจ ยืนยันว่า จำนวนผู้สูงอายุไม่ใช่อุปสรรคต่อเศรษฐกิจ โดยยกตัวอย่างญี่ปุ่นและเยอรมนี ที่ยังสามารถเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกได้ แม้จะมีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลกก็ตาม