แช็ตออนไลน์ทำบทสนทนาชีวิตจริงกร่อย
ผลวิจัยชี้การสนทนาบนโลกออนไลน์สร้างผลเสียต่อการสื่อสารในชีวิตจริง คนเข้าสังคมจับต้องได้ยากขึ้น
ผลวิจัยชี้การสนทนาบนโลกออนไลน์สร้างผลเสียต่อการสื่อสารในชีวิตจริง คนเข้าสังคมจับต้องได้ยากขึ้น
เดลีเมลรายงานอ้างผลการวิจัยของเชอร์รี ทัคเกิล ศาสตราจารย์จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซต (เอ็มไอที) ว่า ความสัมพันธ์บนโลกออนไลน์นั้นอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินความสัมพันธ์กับบุคคลอื่นในโลกแห่งความเป็นจริง โดยอาจทำให้รู้สึกเพิกเฉยต่อบุคคลอื่นหรือเรื่องใดๆ ก็ตามที่รู้สึกเบื่อ จนสร้างกำแพงขึ้นในการสนทนาจริง
ขณะเดียวกัน การแชตออนไลน์ยังมีเวลาคิดที่จะพิมพ์ตอบโต้นานกว่าการสนทนาต่อหน้า ซึ่งอาจทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารในชีวิตจริงตามมา และในไม่ช้าก็อาจทำให้ถึงกับลืมวิธีที่จะจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ในสังคมแห่งความเป็นจริงไป
ผู้เชี่ยวชาญในด้านการสื่อสารยังเตือนว่า ปัญหาด้านการสื่อสารดังกล่าวอาจพบเห็นได้บ่อยขึ้นในกลุ่มเด็กๆ คนรุ่นใหม่ ซึ่งนิยมใช้สมาร์ตโฟนหรืออินเตอร์เน็ตกันตั้งแต่อายุยังน้อย
จากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างเพื่อวิจัยเรื่องการสื่อสารของมนุษย์ ทัคเกิลได้กล่าวในรายการของสถานีวิทยุแห่งชาติในสหรัฐว่า กลุ่มตัวอย่างหลายคนชอบที่จะสื่อสารบนโลกออนไลน์มากกว่า เนื่องจากสามารถมีเวลาคิดกลั่นกรองข้อความที่จะออกมา ซึ่งต่างจากบทสนทนาในชีวิตจริงที่ยุ่งเหยิงและไม่เป็นไปอย่างที่คิด เนื่องจากผู้คนมักจะพูดก่อนไตร่ตรองเรื่องราวต่างๆ
งานวิจัยของศาสตราจารย์เอ็มไอทีสรุปว่า คนที่ชอบสนทนาออนไลน์อย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่ายนั้น จะไม่สามารถสื่อสารได้เหมือนอย่างที่ใจคิดในโลกแห่งความเป็นจริง จนอาจทำให้บางคนต้องเรียนรู้วิธีที่จะคุยกันต่อหน้าแบบปกติอีกครั้ง
นอกจากนี้ หนังสือเรื่อง อโลน ทูเกเตอร์ ของทัคเกิลยังย้ำถึงความกังวลเรื่องโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ทำให้คนกลับโดดเดี่ยวมากขึ้น และมีความเป็นมนุษย์น้อยลง โดยถึงกับเรียกโซเชียลมีเดียว่าเป็น “ความบ้าคลั่งของยุคสมัยใหม่” เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นโลกเสมือนจริงที่ทำให้คนหนีห่างออกจากโลกของความเป็นจริงกันมากขึ้น และทำให้คนมีปัญหาพฤติกรรม เช่น การเช็คไอโฟนระหว่างที่กำลังร่วมพิธีศพ