posttoday

ศาลผู้ดีตัดสินจำคุก7ปีคดีตุ๋นขายจีที200

21 สิงหาคม 2556

ศาลอังกฤษตัดสินจำคุกนักธุรกิจอังกฤษ 7 ปีคดีหลอกขายจีที200เครื่องตรวจบึ้มปลอมให้ลูกค้าทั่วโลกรวมทั้งไทย

ศาลอังกฤษตัดสินจำคุกนักธุรกิจอังกฤษ 7 ปีคดีหลอกขายจีที200เครื่องตรวจบึ้มปลอมให้ลูกค้าทั่วโลกรวมทั้งไทย

ผู้พิพากษาประเทศอังกฤษตัดสินโทษจำคุก แกรีย์ โบลตัน นักธุรกิจชาวผู้ดีจากเมืองเคนท์  เป็นเวลา 7 ปี หลังพบว่ามีความผิดจริงกรณีขายจีที 200 เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอมให้กับลูกค้าในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงไทย

รายงานระบุว่า เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดของนักธุรกิจผู้ดีวัย 47 ปี รายนี้เป็นเพียงกล่องมีด้ามจับและติดเสาอากาศไว้เท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อการตรวจจับวัตถุระเบิดตามที่โบลตันกล่าวอ้าง ขณะที่ทางอัยการกล่าวว่า บริษัทของโบลตันสามารถทำรายได้จากการขายเครื่องตรวจจับปลอมดังกล่าวถึง 3 ล้านปอนด์ (ราว 135,000,000 บาท) ต่อปี ด้วยสนนราคาอยู่ที่เครื่องละ 10,000 ปอนด์ (ราว 450,000 บาท)

ด้านเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์บีบีซีแห่งอังกฤษรายงานว่า ศาลพิจารณาเห็นตรงกันว่า โบลตันตระหนักดีว่า อุปกรณ์ตรวจจับที่อ้างสรรพคุณว่าสามารถตรวจหาได้ทั้งระเบิด ยาเสพติด บุหรี่ งาช้าง หรือเงินสดนี้ ไม่สามารถทำงานได้ตามที่อวดอ้าง แต่ก็ยังคงเดินหน้าขายเครื่องดังกล่าวในตลาดต่างประเทศ รวมถึงประเทศเม็กซิโก และไทย จนกระทั่งมีผู้ซื้อรายหนึ่งเอ็กซ์เรย์อุปกรณ์ดังกล่าวจนพบว่า ภายในเป็นเพียงแค่กล่องว่างเปล่าไม่มีวงจรทำงานอะไรแต่อย่างใด สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงทางการค้าของประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก 

ทั้งนี้ ย้อนไปเมื่อปี 2553 ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศอังกฤษได้ทดสอบอุปกรณ์ตรวจจับระเบิด จีที 200 ตามคำขอของสำนักงานการค้ายุติธรรมที่ร้องให้มีการตรวจสอบคุณภาพ ก่อนได้ข้อสรุปว่า จีที 200 นี้ไม่สามารถเชื่อถือได้ในฐานะเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด เพราะไม่มีชิ้นส่วนที่ทำงานในระบบดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม โบลตัน กลับยังระบุว่า กล่องพลาสติกขนาดเล็กนี้สามารถทำงานตรวจวัตถุระเบิดได้ แถมเดินหน้าขายให้กับลูกค้าต่างชาติ รวมถึง กองทัพในหลายประเทศแม้จะมีหลักฐานพิสูจน์แล้วว่า ไร้ประโยชน์ ก็ตาม

"ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่ศุลกากร รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ต่างเชื่อมั่นในอุปกรณ์ที่ให้ผลไม่แตกต่างจากการสุ่มตรวจแต่อย่างใด และศาลพบว่า จำเลยทราบดีว่าอุปกรณ์นี้ไม่สามารถทำงานได้จริง แต่ก็ยังเดินหน้าขายต่อ จนสามารถทำกำไรได้มหาศาล" แถลงการณ์ของศาลระบุ ก่อนมีมติให้โบลตันผิดจริงในข้อหาเจตนาหลอกลวง