เทสโก้ถอยบุกจีน

เทสโก้ ยกธงขาวเจาะตลาดจีน พยายาม 9 ปีไร้ผล เปลี่ยนแผนขอควบรวมบริษัทจีน

เทสโก้ บริษัทค้าปลีกชื่อดังสัญชาติอังกฤษ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เตรียมควบรวมกับไชน่า รีซอส เอ็นเตอร์ไพรส์ (ซีอาร์อี) บริษัทค้าปลีกของรัฐบาลจีน โดยเทสโก้จะถือหุ้นรายย่อยเพียง 20%

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเทสโก้ ถือเป็นบริษัทค้าปลีกต่างชาติรายล่าสุดที่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเจาะตลาดในประเทศจีนมาเป็นระยะเวลา 9 ปี และการล้มเลิกในครั้งนี้ยังมีขึ้นหลังจากที่บริษัทถอดใจจะเจาะตลาดในสหรัฐและญี่ปุ่นอีกด้วย โดยเทสโก้ระบุว่าจะเน้นการลงทุนในประเทศอังกฤษแทน

การควบรวมในครั้งนี้จะส่งผลให้สาขาของเทสโก้ในจีนทั้งหมด 131 แห่ง ควบรวมกับ แวนการ์ด ร้านขายปลีกของซีอาร์อี ซึ่งมีสาขาในจีนและฮ่องกงทั้งหมด 2,986 แห่ง ซึ่งเป็นที่คาดกันว่าธุรกิจที่ควบรวมแล้วนั้นจะมีมูลค่าราว 1 หมื่นล้านปอนด์ (ราว 4.7 แสนล้านบาท)

นอกจากนี้ การร่วมทุนในครั้งนี้จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดใกล้เคียงกับ ซัน อาร์ท รีเทล กรุ๊ป ผู้นำตลาดค้าปลีกในจีน ซึ่งมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 13.6% ในขณะที่ซีอาร์อีอยู่ที่ 10.9% ส่วนเทสโก้มี 2.4%

นักวิเคราะห์ด้านการค้าปลีกระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวถือเป็นการยอมแพ้ของเทสโก้ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของบริษัทต่างชาติในการเจรจากับผู้จัดจำหน่ายและผู้มีอำนาจในตลาดที่มีการขยายตัวที่รวดเร็ว ทว่าเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมอย่างประเทศจีน

“นี่ดูเหมือนว่าอาจจะได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทว่าในความเป็นจริงแล้ว เทสโก้กำลังพูดว่า ฉันไม่เข้าใจประเทศจีนแม้แต่น้อย” นายธนาคารคนหนึ่งของเอ็มแอนด์เอในฮ่องกง กล่าว

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า เทสโก้น่าจะต้องจ่ายเงินให้กับซีอาร์อีราว 200-300 ล้านปอนด์ ในข้อตกลงควบรวมธุรกิจครั้งนี้

“ในที่สุดเทสโก้ก็สามารถหายักษ์ใหญ่ที่ช่วยกอบกู้บริษัทได้ ซึ่งสัญญานี้ได้ส่งผลดีกับซีอาร์อี ที่ต้องการจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด และมีเงินที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น” เคนนี วู นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอราล จีเอเชีย กล่าว

ทั้งนี้ การเติบโตของชนชั้นกลางในจีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกที่ผ่านมาได้ดึงดูดให้บรรดาบริษัทต่างชาติบุกเข้าสู่ตลาดค้าปลีกจีน แต่แทบจะไม่มีบริษัทต่างชาติรายไหนประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม