จีนรับได้เศรษฐกิจโตช้า

ผู้นำจีนเผยยอมรับได้ หากเศรษฐกิจโตช้าแต่ยั่งยืน ย้ำปกป้องสิ่งแวดล้อมสำคัญสุด

ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ของจีน ส่งสัญญาณพร้อมยอมรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ช้าลง เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับวันยิ่งเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายมากขึ้น

“จีนจะไม่ยอมสละสิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะสั้นเด็ดขาด” ผู้นำจีนกล่าวระหว่างการประชุมหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์จีน เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน ลู่ ถิง นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา ในฮ่องกง ชี้ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมในแดนมังกร ซึ่งนับเป็นประเด็นที่กำลังขัดขวางโครงการก่อสร้างหลายแห่งในประเทศ อาทิเช่น โรงงานในเซี่ยงไฮ้และคุนหมิง ภายหลังประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมประท้วง เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จีนเผชิญปัญหาสิ่งแวดล้อมหลายครั้ง อาทิเช่น การทิ้งซากหมู 2 หมื่นตัวในแม่น้ำ รวมทั้งมลภาวะทางอากาศในกรุงปักกิ่ง

ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนยังได้เผยแผนปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วยการผลักดันให้ภาคเอกชนเข้าไปมีบทบาทในการกระตุ้นเศรษฐกิจแดนมังกรมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการเปิดโอกาสให้เอกชนเข้าไปลงทุนในหน่วยงานและอุตสาหกรรมของรัฐมากขึ้น พร้อมกับลดบทบาทของภาครัฐลง

“รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เพราะหนี้เริ่มพอก จึงต้องหาวิธีอื่นที่ไม่ใช่การอัดฉีดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ” ฌอง-ปิแอร์ กาเบสตัน ผู้เชี่ยวชาญจีนศึกษาจาก มหาวิทยาลัยฮ่องกงแบบติสต์ กล่าว