posttoday

โอบามาสั่งล่ามือบึ้ม บอสตัน มาราธอน

16 เมษายน 2556

ผู้นำสหรัฐสั่งล่ามือลอบวางระเบิดในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ระหว่างมีแข่งบอสตัน มาราธอนพบผู้เสียชีวิต3รศพเจ็บ141คน

ผู้นำสหรัฐสั่งล่ามือลอบวางระเบิดในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ระหว่างมีแข่งบอสตัน มาราธอนพบผู้เสียชีวิตศพเจ็บ141คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดระเบิดขึ้น 3ครั้ง ในมลรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐ โดย 2 ลูก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.40 น.ตามเวลาในไทย บริเวณเส้นชัยของการแข่งขัน บอสตัน มาราธอน รายการแข่งขันที่เก่าแก่ของสหรัฐ และเวลาประมาณ 04.00 น. เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 จุด และที่ห้องสมุดประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บ 141คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 17ราย จำเป็นต้องตัดอวัยวะบางส่วนที่ถูกสะเก็ตระเบิดทิ้ง  

เวลาต่อมา ตำรวจบอสตันชี้แจงเหตุการณ์ที่ห้องสมุดประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี เป็นเพียงแค่ไฟไหม้ ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดสองครั้งซ้อน ณ บริเวณเส้นชัยของการแข่งขันบอสตันมาราธอน

หน่วยข่าวกรองสหรัฐ รายงานว่า พบระเบิดอีกหลายจุดแต่ยังไม่จุดชนวน ทั้งนี้ทำให้ทั้งผู้ชม, เจ้าหน้าที่และนักกีฬา ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวไปรักษาเบื้องต้นที่เต็นท์ปฐมพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องส่งสัญญาณให้นักวิ่งอื่น ๆ ที่ตามหลังมา หลีกเลี่ยงวิ่งไปในเส้นทางอื่นแทนหลังเกิดเหตุ ได้มีกลุ่มควันปกคลุมไปทั่วบริเวณดังกล่าว ขณะเดียวกัน ก็มีกองเลือดมากมายบนท้องถนน ในย่านช็อปปิ้งและแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ออกมากล่าวว่าได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าไปในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่และได้สั่งให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุ และผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด พร้อมกับกล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อผู้ชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
         
ด้าน รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวในการประชุมฉุกเฉินผ่านทางโทรศัพท์ว่า ขอไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบ เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบและจะหาสาเหตุและผู้ก่อเหตุมาให้ได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจในลอสแองเจลิส นครนิวยอร์ก กรุงวอชิงตัน กรุงลอนดอน และเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก ต่างเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ตามสถานที่สำคัญๆ ภายในเมือง ทั้งสถานีขนส่ง โรงเรียน อาคารที่ทำการรัฐบาล และตามโรงแรมต่างๆ
         
นอกจากนี้ ทางการยังมีการเคลื่อนไหวทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น เรียกร้องผ่านทางทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ค ให้ประชาชนแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบเจอกิจกรรมน่าสงสัย
         
การเคลื่อนไหวข้างต้นเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อน บริเวณเส้นชัยของการแข่งขันวิ่งมาราธอนในบอสตัน สหรัฐ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน และยังเกิดระเบิดครั้งที่ 3 บริเวณหอสมุดของเมือง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดใน 2 ครั้งแรกหรือไม่
         
ขณะที่ทำเนียบขาว ระบุว่า แม้จะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ และใครเป็นผู้ลงมือ แต่จะปฏิบัติต่อสถานการณ์นี้เหมือนกับการรับมือกับการก่อการร้าย