posttoday

เส้นทางศักดิ์สิทธิ์สู่..."โป๊ป"

03 มีนาคม 2556

เปิดขั้นตอนการคัดเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ "วาติกัน"คาดกระบวนการเสร็จสมบูรณ์ก่อน 15 มี.ค.

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่ทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะภายหลังจากที่ทรงขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนมากกว่า 1.5 แสนคน บริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 28 ก.พ. สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ก็ได้ทรงก้าวลงจากตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

และส่งผลให้เส้นทางการเลือกเฟ้นหาผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่แห่งนครวาติกันอันศักดิ์สิทธิ์เริ่มต้นขึ้น โดยปกติแล้ว การคัดสรรโป๊ปพระองค์ใหม่จะเกิดขึ้นภายใน 15-20 วัน หลังพิธีปลงพระศพพระสันตะปาปาสิ้นสุดลงตามจารีตพิธี

ทว่า ในกรณีคราวนี้นับเป็นการแหกจารีตประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมานานถึง 500 ปี คือจะมีการคัดสรรเร็วกว่ากำหนดตามที่อดีตพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งปัจจุบันได้รับการถวายสมณศักดิ์ใหม่เป็น “สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ” ได้ทรงแก้กฎไว้ก่อนหน้านี้

บาทหลวง เฟรเดอริโก ลอมบาร์ดี โฆษกแห่งสำนักวาติกัน เปิดเผยว่า กระบวนการคัดเลือกประมุของค์ใหม่ จะเริ่มต้นในวันที่ 4 มี.ค. และจะเสร็จสมบูรณ์ก่อนวันที่ 15 มี.ค. โดยคาดว่าประมุของค์ใหม่จะปรากฏตัวเข้าร่วมเทศกาล “ปาล์ม ซันเดย์” หรือการเฉลิมฉลองของชาวคริสต์ศาสนิกชนเพื่อรำลึกถึงการเข้าสู่เมืองเยรูซาเลมของพระเยซูคริสต์ในวันที่ 24 มี.ค. เป็นครั้งแรกอีกด้วย

กระบวนการคัดสรรประมุขใหม่ จะเริ่มขึ้นเมื่อบรรดาพระคาร์ดินัลทั้งหมด 115 รูป จาก 51 ประเทศทั่วโลก อายุต่ำกว่า 80 ปี และมีสิทธิในพิธีคัดเลือกได้รับการเรียกให้มารวมตัวกันที่นครวาติกัน โดยคณะคาร์ดินัลจะเก็บตัวจนกว่าพิธีจะสิ้นสุดลง และจะถูกตัดขาดจากการสื่อสารเพื่อไม่ให้มีอิทธิพลใดๆ มาชี้นำการตัดสินใจ

เส้นทางศักดิ์สิทธิ์สู่..."โป๊ป"

เดิมทีขั้นตอนการคัดเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ มีอยู่ 3 แบบ 1.เลือกโดยใช้แรงดลใจจากพระจิตเจ้า 2.เลือกโดยอาศัยหลักประนีประนอม แต่ในปัจจุบันนิยมใช้แบบที่ 3 มากที่สุดคือการลงคะแนนลับ

ขั้นตอนแรก คณะคาร์ดินัลจะเข้าร่วมพิธีมิสซาที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่อขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าในช่วงเช้า ก่อนเดินทางไปยังวิหารซิสติน เพื่อเข้าร่วมพิธีการลงคะแนนลับเลือกประมุของค์ใหม่อย่างเป็นทางการในช่วงบ่าย โดยจะมีการขานชื่อพระคาร์ดินัลแต่ละรูปเพื่อให้หย่อนกระดาษลงกล่องหน้าห้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจนับบัตร

ในแต่ละรอบ ผู้ที่ได้รับเลือกนั้นจะต้องได้คะแนน 2 ใน 3 ของคณะคาร์ดินัล แต่หากคะแนนเสียงยังไม่ครบกำหนด จะมีการลงคะแนนลับต่อไป โดยในวันที่ 2 และ 3 สามารถทำการลงคะแนนลับได้สูงสุด 4 ครั้ง

และหากในวันที่ 3 ยังไม่รู้ผล จะมีการหยุดพักเพื่อสวดมนต์ขอพรก่อน 1 วัน หรือที่เรียกว่า “วันพักฟื้น” ก่อนเริ่มต้นลงคะแนนต่อไป จนถึงการลงคะแนนครั้งที่ 7 ซึ่งถือเป็นที่สิ้นสุด โดยในครั้งนี้ผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด จะได้รับแต่งตั้งเป็นประมุของค์ใหม่ทันที

สำหรับเหล่าคริสต์ศาสนิกชนภายนอกที่ติดตามผลการคัดเลือก สามารถสังเกตจากสัญญาณควันจากปล่องของวิหารซิสติน โดยหากยังไม่ได้ประมุของค์ใหม่ เจ้าหน้าที่จะทำการเติมสารเคมีพิเศษลงไปเพื่อให้สัญญาณควันเป็นสีดำ แต่หากควันสีขาวปรากฏขึ้นก็หมายความว่าพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ได้รับเลือกแล้ว

ภายหลังทราบผล องค์คาร์ดินัลอาวุโสจะถามความสมัครใจจากคาร์ดินัลที่ได้รับ|เลือก และถามความประสงค์ในการเลือกพระนามจากรายชื่อของสมเด็จพระสันตะปาปาที่มีในประวัติศาสตร์ โดยอาจต่อยอดเป็นเบเนดิกต์ที่ 17 หรือ จอห์น ปอล ที่ 3 แล้วแต่พระประสงค์

จากนั้นคาร์ดินัลที่ถูกเลือกจะเข้าไปเตรียมตัวในห้องพักเพื่อผลัดชุดจากสีแดงเป็นสีขาว และเตรียมตัวเตรียมใจ ก่อนเสด็จมาที่เฉลียงมหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งเปิดออกสู่ลานจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ เพื่อโบกพระหัตถ์ทักทายคริสต์ศาสนิกชนเบื้องล่าง โดยมีเสียงประกาศเป็นภาษาละตินว่า “ฮาเบมุส ปาแปม” (Habemus Papam – “เรามีพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่แล้ว”) ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์

******************

เส้นทางศักดิ์สิทธิ์สู่..."โป๊ป"

เส้นทางสู่โป๊ป

1. คณะคาร์ดินัล 115 รูปทั่วโลกรวมตัวที่นครวาติกัน

2. ร่วมพิธีมิสซาสวดขอพร และเริ่มลงคะแนนลับ

3. ผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกต้องมีคะแนนเกิน 2 ใน 3 โดยหากเสียงยังแตก จะลงคะแนนลับต่อไปจนถึงครั้งที่ 7 ซึ่งผู้ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุดในครั้งนี้ จะได้รับแต่งตั้งเป็นประมุของค์ใหม่ทันที

4. แต่ละรอบของการลงคะแนน จะมีการเผากระดาษชื่อ พร้อมส่งสัญญาณควันให้คริสต์ศาสนิกชนทราบถึงผลการคัดเลือก
สีดำ=ยังไม่ได้ประมุของค์ใหม่
สีขาว=พระสันตะปาปาได้ถูกเลือกแล้ว

5. ภายหลังทราบชื่อผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด องค์คาดินัลอาวุโสจะถามความสมัครใจ และกำหนดชื่อใหม่

6. วาติกันส่งสัญญาณด้วยควันสีขาว

7. ว่าที่พระสันตะปาปาเปลี่ยนอาภรณ์จากสีแดงเป็นสีขาว

8. ปรากฏตัวและให้พรต่อคริสต์ศาสนิกชนยังหน้ามุขของจัตุรัสเซนต์
ปีเตอร์เป็นครั้งแรก