ซื้อกิจการจีนระวัง"ย้อมแมว"
กูรูเตือนระวังตกเป็นเหยื่อลงทุนในจีน พบหลายบริษัทตกแต่งบัญชีเกินจริงก่อนขายกิจการให้
กูรูเตือนระวังตกเป็นเหยื่อลงทุนในจีน พบหลายบริษัทตกแต่งบัญชีเกินจริงก่อนขายกิจการให้
เบน คาเวนเดอร์ ที่ปรึกษาบริษัท ไชนา มาร์เก็ต รีเสิร์ช กรุ๊ป ในเซี่ยงไฮ้ เตือนนักลงทุนทั่วไปที่จะเข้าซื้อกิจการจากจีนว่าให้ระวัง หลังจากเกิดกรณีที่บริษัท แคทเธอร์พิลลาร์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างรายใหญ่จากสหรัฐ ถูกบริษัท ซื่อเหว่ย เมคานิคอล แอนด์ อิเล็กทริคอล แมนูแฟกเจอริง ทำการตกแต่งบัญชีและขายกิจการให้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ทางแคทเธอร์พิลลาร์กำลังเตรียมฟ้องร้องบริษัทจีนภายในเดือนนี้
เอเอฟพีรายงานว่า แคทเธอร์พิลลาร์เตรียมฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายสูงถึง 580 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.74 แสนล้านบาท) ขณะที่ก่อนหน้านี้ ทางบริษัทได้สั่งปลดผู้จัดการระดับสูงของบริษัท ซื่อเหว่ย ออกหลายตำแหน่ง หลังจากพบว่าได้ทำการประเมินผลกำไรของบริษัทมากเกินความเป็นจริง
“นี่คือบทเรียนสำหรับบริษัทต่างๆ ว่า พวกเขาจะต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นแล้วว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแคทเธอร์พิลลาร์ก็ยังตกหลุมพรางได้เช่นกัน” คาเวนเดอร์ กล่าวถึงตัวอย่างของแคทเธอร์พิลลาร์ ที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจในจีนมานานเกือบ 40 ปี
ขณะที่ สตีฟ วิกเคอร์ส ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงแห่งหนึ่งในฮ่องกงเตือนว่า ที่ผ่านมามีการพบกรณีตกแต่งบัญชีในบริษัทจีนหลายแห่ง ทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐและตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศ เช่น บริษัท ซิโน ฟอร์เรสต์ ซึ่งจดทะเบียนในแคนาดา
อย่างไรก็ตาม แม้นักวิเคราะห์จะออกมาชี้ถึงปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว แต่ในสายตานักลงทุนส่วนใหญ่ ก็ยังคงมองว่าจีนยังน่าลงทุนอยู่ เห็นได้จากเงินทุนที่เข้าไปสู่จีนปีที่แล้ว มีมากถึง 1.12 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 33.6 ล้านล้านบาท) ขณะที่นับตั้งแต่ทำการปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 2521 จนถึงปัจจุบัน จีนมีปริมาณการลงทุนเข้ามาแล้วมากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 30 ล้านล้านบาท)