ผลวิจัยยันสวมถุงยางไม่มีผลกับเพศรส

ผลวิจัยของสหรัฐบ่งบอกการสวมถุงยางอนามัยไม่มีผลกับความพึงพอใจของคู่นอน

นักวิจัยได้สำรวจแบบสอบถามทางอินเทอร์เน็ตชายและหญิง อายุระหว่าง 18-59 ปี เกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศ พบว่าผู้ทำแบบสอบถามให้คะแนนการถูกกระตุ้นและความพึงพอใจระหว่างการมีเซ็กซ์โดยสวมถุงยางอนามัยและไม่สวมพอๆ กัน

ดร.เด็บบี เฮอร์บีนิก จากมหาวิทยาลัยอินดีแอนา สหรัฐ ผู้ทำการศึกษาเรื่องนี้ กล่าวว่า ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะซื้อถุงยางอนามัยและใช้งานมากกว่าผู้หญิง แต่ก็มีความจำเป็นยิ่งที่ผู้หญิงจะต้องมีความคุ้นเคยกับถุงยางอนามัยที่ใช้กับคู่นอน เพื่อที่เหล่าเธอจะได้สามารถตัดสินใจเลือกสี ลาย ดีไซน์ กลิ่น รส อันนำไปสู่ความพึงใจในเชิงเพศรสและความปลอดภัยไปพร้อมกัน

ผลการสำรวจนี้ยังระบุด้วยว่า ผู้ชายไม่ประสบความยากลำบากในการรักษาสภาพการแข็งตัวของอวัยวะเพศเมื่อต้องสวมถุงยางอนามัย รวมทั้งฝ่ายหญิงจำนวนมากเองก็ไม่สามารถบอกได้ถึงความแตกต่างระหว่างสวมและไม่สวม

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเปิดเผยข้อมูลว่า ในสหรัฐมีผู้ติดโรคทางเพศสัมพันธ์ปีละประมาณ 19 ล้านคน สาเหตุหลักมาจากการไม่สวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคหนองในเทียม ถือว่าเป็นโรคที่พบมากเป็นพิเศษ ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งแม้ผู้ติดเชื้ออาจไม่มีอาการ แต่หากทิ้งไว้โดยไม่รักษาก็อาจจะนำไปสู่ปัญหาใหญ่ในระยะยาวได้