ตั้ง"ซูจี"ประธานสอบสลายม็อบโหด
ผู้นำพม่าแต่งตั้งให้ผู้นำฝ่ายค้านนำการสอบสวนการสลายม็อบ โยนไพ่ให้ตัดสินชะตาเหมืองทองแดงจีน
ผู้นำพม่าแต่งตั้งให้ผู้นำฝ่ายค้านนำการสอบสวนการสลายม็อบ โยนไพ่ให้ตัดสินชะตาเหมืองทองแดงจีน
ทำเนียบประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า เปิดเผยว่า รัฐบาลได้แต่งตั้งให้ อองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านของพม่า เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวน กรณีการใช้กำลังเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่เหมืองทองแดงในเมืองโมนยวา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอย่างรุนแรงเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และซูจียังเป็นผู้ประเมินอนาคตของเหมืองดังกล่าว ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทจีนและบริษัทที่กองทัพพม่าควบคุมอยู่ด้วย
รายงานระบุว่า คณะกรรมการ 30 คน จะเป็นผู้เปิดการสอบสวนเกี่ยวกับประเด็นสังคมและสิ่งแวดล้อมที่อยู่เบื้องหลังการประท้วงดังกล่าว ซึ่งรวมถึงข้อกล่าวหาว่า มีการบังคับให้อพยพประชาชนครั้งใหญ่เพื่อปูทางไปสู่การสร้างเหมืองด้วย
“คณะกรรมการจะสอบสวนหาความจริงของการสลายม็อบโดยกลุ่มตำรวจปราบจลาจล และประเมินว่าเหมืองทองแดงได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบภายใต้มาตรฐานระหว่างประเทศหรือไม่” แถลงการณ์จากทำเนียบประธานาธิบดีพม่าระบุ และย้ำด้วยว่าทางคณะกรรมการจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาว่าจะให้เดินหน้าโครงการดังกล่าวต่อไป หรือไม่
ทั้งนี้ บรรดานักเคลื่อนไหวได้เรียกร้องให้มีการระงับเหมืองทองแดงดังกล่าวออกไป เพื่อเปิดทางให้มีการศึกษาผลกระทบให้รอบด้านก่อน ท่ามกลางข้อ|กล่าวหาว่าเหมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทหวันเปา และบริษัท เมียนมาร์ อิโคโนมิค โฮลดิงส์ ได้ก่อให้เกิดมลภาวะและการอพยพของชาวบ้านครั้งใหญ่
ก่อนหน้านี้ ซูจีได้ออกโรงประณามการใช้กำลังเข้าสลายการประท้วงครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ที่รัฐบาลประธานาธิบดีเต็งเส่งขึ้นสู่อำนาจเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน รวมถึงพระสงฆ์ด้วย หลายคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเป็นแผลไฟไหม้ตามร่างกาย ส่งผลให้สาธารณชนหวนนึกย้อนไปถึงยุครัฐบาลทหารพม่าที่มักใช้กำลังปราบปรามการชุมนุมต่างๆ อย่างรุนแรง
สส.และผู้นำฝ่ายค้านพม่ารายนี้ยังได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ โดยได้พูดคุยกับทั้งสองฝ่าย พร้อมเรียกร้องให้มีการขอโทษบรรดาพระสงฆ์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมครั้งนี้ด้วย
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมชาวพม่าราว 50 คน เดินทางไปประท้วงที่หน้าสถานทูตจีน ประจำนครย่างกุ้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นกระแสต่อต้านจีนที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ ขณะที่ในปีที่แล้วก็มีกระแสต่อต้านการสร้างเขื่อนมีตโสน ของบริษัทจีน จนรัฐบาลพม่าต้องระงับโครงการดังกล่าวมาแล้ว