posttoday

จีนเปิดม่านประชุมใหญ่ ได้เวลายกเครื่อง'โมเดลเศรษฐกิจ'

09 พฤศจิกายน 2555

ผู้นำจีนเปิดประชุมใหญ่ในรอบ 10 ปี ลั่นพร้อมปฏิรูปเศรษฐกิจ เดินหน้าจีนเติบโตอย่างยั่งยืน

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

ผู้นำจีนเปิดประชุมใหญ่ในรอบ 10 ปี ลั่นพร้อมปฏิรูปเศรษฐกิจ เดินหน้าจีนเติบโตอย่างยั่งยืน

ประธานาธิบดี หูจิ่นเทา ได้กล่าวปราศรัยเปิดม่านการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ต่อผู้ร่วมประชุมกว่า 2,000 คน เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า จีนควรเร่งสร้างรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่โดยเร็ว โดยเน้นขับเคลื่อนด้วยการบริโภคภายในประเทศและการดำเนินการของบริษัทเอกชน เพื่อให้เป็นหลักประกันได้ว่าเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้จะสามารถขยายตัวได้อย่างมั่นคงในระยะยาว

ประธานาธิบดี หูจิ่นเทา ซึ่งเตรียมที่จะส่งมอบตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปให้กับรองประธานาธิบดี สีจิ้นผิง กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากที่ขับเคลื่อนโดยการส่งออกและการลงทุน เนื่องจากเป็นรูปแบบการเติบโตที่ไม่ยั่งยืน และต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้มั่นใจได้ว่าภาคเอกชนในจีนจะสามารถแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมกับภาครัฐวิสาหกิจ

จีนเปิดม่านประชุมใหญ่ ได้เวลายกเครื่อง'โมเดลเศรษฐกิจ'

 

“เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาทางเศรษฐกิจทั้งในและระหว่างประเทศ เราควรเร่งสร้างรูปแบบการเติบโตใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าพัฒนาการทางเศรษฐกิจจะอยู่บนพื้นฐานของการปฏิบัติและคุณภาพที่ดีขึ้น” หูจิ่นเทา กล่าว

บรรดานักวิเคราะห์ได้ระบุก่อนหน้านี้ว่า แนวทางดังกล่าวจะช่วยลดแรงปะทะจากการที่จีนได้ดุลการค้าเกินดุลมหาศาลกับหลายประเทศในฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐ ในขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังได้รับผลกระทบจากการส่งออกไปยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น ที่ลดลงจนฉุดให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ของปีนี้เติบโตต่ำสุดในรอบ 3 ปีที่ 7.4%

นอกจากนี้ จีนยังต้องปฏิรูปเพื่อให้ค่าเงินหยวนและอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงกับตลาดมากขึ้น พร้อมทั้งต้องดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศและงบประมาณของรัฐให้เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้นด้วย โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะเพิ่มสัดส่วนจีดีพีและรายได้ต่อหัวของประชากรของปี 2010 ให้ขยายตัวถึง 2 เท่า ภายในปี 2020

การลดช่องว่างของรายได้นับเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญของผู้นำจีน และกลายเป็นปัญหาละเอียดอ่อนทางการเมืองมาตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลังช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยขยายตัวขึ้น โดยจีนมีเศรษฐีผู้มีสินทรัพย์กว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (กว่า 30 ล้านบาท) ถึง 2.7 ล้านคน แต่ชาวจีนอีก 13% กลับมีรายได้ต่อวันไม่ถึง 1.25 เหรียญสหรัฐ (เกือบ 40 บาท)

นอกจากจะเน้นที่การปฏิรูปทางเศรษฐกิจแล้ว ประธานาธิบดีหูจิ่นเทายังได้ย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องแก้ปัญหาการคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อพรรคคอมมิวนิสต์ และย้ำว่าผู้ที่ฝ่าฝืนระเบียบและกฎหมายของประเทศต้องได้รับโทษ ไม่ว่าจะมีตำแหน่งหน้าที่ใดก็ตาม

ทั้งนี้ แม้ว่าทุกฝ่ายจะจับจ้องไปที่สีจิ้นผิง ซึ่งจะก้าวขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดีคนใหม่ของจีน ทว่า จุดสนใจของทุกฝ่ายในการประชุมใหญ่ครั้งนี้กลับอยู่ที่อดีตประธานาธิบดี เจียงเจ๋อหมิน วัย 86 ปี ซึ่งได้ที่นั่งด้านหน้าสุดเคียงข้างประธานาธิบดีหูจิ่นเทา โดยบ่งชี้ว่า ผู้นำรุ่นที่ 3 ของจีนรายนี้ยังคงมีอิทธิพล อย่างล้นเหลือ แม้ว่าจะไม่ได้มีตำแหน่งในรัฐบาลตลอด 8 ปีที่ผ่านมาก็ตาม

ไฟแนนเชียล ไทมส์ ระบุว่า ที่นั่งของเจียงเจ๋อหมินมีลำดับความสำคัญยิ่งกว่านายกรัฐมนตรี เวินเจียเป่า หรือแม้แต่อู๋ปังกั๊ว ประธานสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นผู้มีความสำคัญลำดับ 2 จากใน 9 สมาชิกถาวรกรมการเมืองจีน ทำให้เป็นที่เชื่อได้ว่า เจียงเจ๋อหมินยังคงมีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังในการคัดเลือกสมาชิกถาวรกรมการเมืองทั้ง 9 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริหารที่กุมอำนาจสูงสุดในจีน และจะมีการประกาศรายชื่อในสัปดาห์หน้า