posttoday

เตือนศก.มะกันส่อดิ่งเหว

16 กันยายน 2555

เตือนเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงทรุดหนัก หากถกแผนตัดลดงบประมาณล่ม

เตือนเศรษฐกิจสหรัฐเสี่ยงทรุดหนัก หากถกแผนตัดลดงบประมาณล่ม

เตือนศก.มะกันส่อดิ่งเหว

ทำเนียบขาวของสหรัฐ ออกรายงานเตือนล่าสุดว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก เช่นเดียวกับสวัสดิภาพของชาวอเมริกันและความมั่นคงของชาติ หากสมาชิกสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการตัดลดค่าใช้จ่ายรัฐบาลและต่ออายุมาตรการภาษี ซึ่งจะหมดอายุลงในช่วงต้นปี 2556 ได้สำเร็จทันเวลา

รายละเอียดของรายงาน ซึ่งมีความยาว 394 หน้า ระบุว่า เมื่อสภาคองเกรสล้มเหลวในการหาข้อสรุปในรายละเอียดของแผนลดค่าใช้จ่าย ก็จะส่งผลให้กระบวนการตัดลดงบประมาณขาดดุลมูลค่า 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายใน 10 ปี มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ม.ค. 2556 โดยอัตโนมัติ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าว จะส่งผลให้โครงการต่างๆ ของภาครัฐ ถูกตัดลดงบประมาณเป็นมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณเงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐ การให้เงินทุนอุดหนุนเพื่อการวิจัยสำหรับภาคเอกชน การดำเนินงานด้านการคมนาคม ตลอดจนถึงโครงการช่วยเหลือด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ ที่จะถูกตัดลดงบประมาณลงโดยอัตโนมัติสูงถึง 1.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชาวอเมริกันเป็นวงกว้าง

ขณะที่งบประมาณด้านความมั่นคงของประเทศ ก็จะถูกปรับลดลงถึง 9.4% หรือคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.53 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ท่ามกลางความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อชาวอเมริกันทั้งในตะวันออกกลางและอัฟกานิสถานอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังส่งผลให้การลงทุนภายในประเทศชะลอตัวลง และส่งผลให้คนว่างงานทั้งในภาครัฐและเอกชนเพิ่มมากขึ้น

“การตัดลดค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติ จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหม่ เนื่องจากงบประมาณจำนวนมหาศาลหายไปจากระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วเกินไป ดังนั้นสภาคองเกรสจึงควรให้ความร่วมมืออนุมัติแผนตัดลดขาดดุลที่มีความสมดุล เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายดังกล่าว” รายงานระบุ

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้สภาคองเกรส ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ยังคงไม่สามารถหาข้อตกลงเกี่ยวกับแผนตัดลดการขาดดุลงบประมาณประเทศได้สำเร็จ

พรรครีพับลิกัน ยังคงไม่เห็นด้วยกับแผนของพรรคเดโมแครตที่เสนอให้มีการขึ้นการจัดเก็บภาษีกลุ่มชาวอเมริกันที่มีรายได้สูงเพิ่มเติม เนื่องจากกังวลว่าอาจกระทบต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 6 พ.ย. ที่กลุ่มผู้มีรายได้สูงเป็นฐานเสียงสำคัญ

ขณะเดียวกัน พรรคเดโมแครตก็ไม่ยอมอ่อนข้อต่อข้อเสนอของพรรครีพับลิกันที่ต้องการให้มีการตัดลดขาดดุลงบประมาณประเทศลง ด้วยการเดินหน้าตัดลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งหมายรวมถึงการตัดลดค่าใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระต่อกลุ่มชนชั้นกลาง ที่เป็นฐานเสียงของเดโมแครต