อินเดียเจอไฟดับครั้งใหญ่รอบหลายสิบปี

เกิดเหตุไฟดับครั้งใหญ่บริเวณตอนเหนือของอินเดีย ส่งผลให้ประชาชนกว่า 300 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้

ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เน็ต

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่าเกิดเหตุไฟดับครั้งใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 8 แคว้นทางตอนเหนือของประเทศอินเดียคือ อุตตรประเทศ ราชสถาน ฮายานา ปัญจาบ จามู และแคชเมียร์ รวมถึงกรุงนิวเดลี เมืองหลวง เมื่อช่วงประมาณ 2.30 น. หรือเช้ามืดของวันที่ 30 ก.ค. ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 300 ล้านคนไม่มีไฟฟ้า-น้ำใช้ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด

ทั้งนี้ แม้เจ้าหน้าที่จะเร่งแก้ไขอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่สามารถให้ทันกับช่วงเวลาเร่งด่วนที่ประชาชนต้องไปทำงานได้ สร้างความโกลาหลวุ่นวายไปทั่วกรุงนิวเดลี และตามตัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากไฟจราจรดับ ขณะที่รถไฟหลายสายต้องยกเลิกการให้บริการ

"ผมมาทำงานสาย 45 นาที แรกสุดไม่มีไฟฟ้าใช้ตั้งแต่ตี 2 ต่อมาก็ไม่มีน้ำให้อาบ รถไฟใต้ดินก็ล่าช้า แล้วก็ต้องมานั่งแหง็กอยู่บนถนนอีกกว่าครึ่งชั่วโมง" เคชาฟ ชาห์ พนักงานบริษัทซอฟแวร์ข้ามชาติในกรุงนิวเดลี วัย 32 ปีกล่าว

เหตุไฟดับในครั้งนี้ นับว่าใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยเกิดขึ้นของประเทศอินเดียในรอบกว่าทศวรรษ โดยเจ้าหน้าที่ได้พยายามกู้ไฟฟ้าให้กับสถานที่สำคัญๆ และจำเป็นก่อนคือโรงพยาบาล และระบบโทรคมนาคม ก่อนจัดการให้ระบบไฟฟ้ากลับมาใช้ได้อีกครั้งบางส่วนในช่วงสายของวันที่ 30 ก.ค.

ด้านราม  นายัค ผู้อำนวยการพาวเวอร์ กริด คอร์เปอร์เรชั่น รัฐวิสหากิจผู้ให้บริการไฟฟ้าแก่สาธารณะกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอยู่ในระหว่างการเร่งตรวจสอบสาเหตุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต