posttoday

ต่างชาติอัดเละเที่ยวไทย

24 กรกฎาคม 2555

สื่อต่างประเทศอัดยับการท่องเที่ยวไทยคุณภาพต่ำลงเต็มไปด้วยอันตราย เน้นแต่ปริมาณคุณภาพไม่เหลือ

สื่อต่างประเทศอัดยับการท่องเที่ยวไทยคุณภาพต่ำลงเต็มไปด้วยอันตราย เน้นแต่ปริมาณคุณภาพไม่เหลือ

ต่างชาติอัดเละเที่ยวไทย

รอยเตอร์สรายงานกึ่งวิเคราะห์ วิจารณ์อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยับ เปรียบเสมือนกับระเบิด เต็มไปด้วยอันตรายบนภาพลักษณ์อันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวพี่น้องชาวแคนาดาที่ถูกสารพิษและเสียชีวิตลงที่เกาะพีพี ตลอดจนถึงกรณีการชิงทรัพย์และสังหารสตรีชาวออสเตรเลียวัย 60 ปี ที่เกาะภูเก็ตเมื่อเดือนที่แล้ว

ทั้งสองกรณีคือความรุนแรงล่าสุดที่สร้างความสั่นสะเทือนให้กับการท่องเที่ยวไทย และทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า ประเทศไทยกำลังล้มเหลวต่อการปกป้องนักท่องเที่ยว

นอกจากนั้น ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยยังเต็มไปด้วยข่าวร้ายต่อการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มแท็กซี่มาเฟีย สาวประเภทสองที่ผันมาเป็นโจรชิงทรัพย์ ปัญหามลพิษ การทำร้ายนักท่องเที่ยว อุบัติเหตุบนท้องถนน ตลอดจนถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับสนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ว่าจะเป็นกรณีเรดาร์เสีย เที่ยวบินล่าช้า และกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองที่แถวยาวเหยียด

“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คิดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้นนั้นหมายความว่าผู้คนจะต้องชอบที่นี่ แต่จริงๆ แล้วคุณภาพของการท่องเที่ยวนั้นตกต่ำลง” แลร์รี คันนิงแฮม กงสุลกิตติมศักดิ์ของออสเตรเลียประจำภูเก็ต กล่าว

เมื่อปีที่แล้วสถานีโทรทัศน์ในเยอรมนีก็รายงานภาพหลักฐานขณะที่น้ำเสียปริมาณมหาศาลถูกถ่ายทิ้งลงชายหาดกะรนและกะตะ อันมีชื่อของภูเก็ตมาแล้วด้วย

รอยเตอร์สยังรายงานถึงเมืองพัทยาว่า เป็นเมืองที่ภาพลักษณ์เป็น “เมืองบาป” เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยแหล่งบันเทิงโลกีย์ อาชญากรรม และการพัฒนาที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ

รายงานยังอ้างความเห็นจาก กรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีคลังของไทย ให้ความเห็นว่า ประเทศไทยคิดถึงการท่องเที่ยวในแง่ของการทำงานมากเกินไป ซึ่งกำลังทำให้อนาคตอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอยู่บนความเสี่ยงมากขึ้น

ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การเอฟไอเอ ซึ่งเป็นองค์การดูแลกีฬามอเตอร์สปอร์ตโลกแสดงให้เห็นด้วยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวสหรัฐเสียชีวิตบนท้องถนนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ตามหลังฮอนดูรัสเท่านั้น

กระนั้นก็ตาม รอยเตอร์ส ระบุว่า ประเทศไทยก็ยังมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 19 ล้านคน สร้างรายได้ให้ประเทศ 7.76 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 31% แต่ประเทศไทยกำลังจะเจอความเสี่ยงเมื่อพม่าเปิดประเทศ ซึ่งเมื่อนั้นประเทศไทยจะต้องตัดสินใจว่าการท่องเที่ยวแบบไหนที่ไทยต้องการ