posttoday

ศก.จีนครึ่งปีหลังชะลอยาว

23 กรกฎาคม 2555

คาดจีนไตรมาส 3 หดตัวต่อเนื่องอีก เสี่ยงภาวะเงินฝืดสูง แบงก์ชาติเตรียมลดสัดส่วนสำรองทุนแบงก์พาณิชย์

คาดจีนไตรมาส 3 หดตัวต่อเนื่องอีก เสี่ยงภาวะเงินฝืดสูง แบงก์ชาติเตรียมลดสัดส่วนสำรองทุนแบงก์พาณิชย์

ศก.จีนครึ่งปีหลังชะลอยาว

ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ออกโรงเตือนเมื่อวันที่ 22 ก.ค. ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะหดตัวลงต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 อาจจะหดตัวลงต่อไปอยู่ที่ 7.4% หลังจากที่ในไตรมาส 2 เศรษฐกิจจีนเติบโตช้าลงมาอยู่ที่ 7.6% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี

คำเตือนดังกล่าวถือว่าเป็นการเน้นย้ำท่าทีของนายกรัฐมนตรี เวินเจียเป่า แห่งจีน ที่ออกโรงเตือนก่อนหน้านี้ว่า จีนจะเจอกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจต่อไปอีกระยะหนึ่งทีเดียว

ซ่งกั๊วฉิง สมาชิกคณะกรรมการด้านนโยบายของธนาคารกลางจีนยังเตือนด้วยว่า มีความเสี่ยงที่จีนจะต้องพบกับภาวะเงินฝืดในระยะสั้นอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมานั้นเศรษฐกิจจีนหดตัวต่อเนื่องถึง 6 ไตรมาสติดต่อกัน จากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในยุโรปหดตัว และเป็นผลจากการที่จีนใช้มาตรการแก้ปัญหาภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงและต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้ ซึ่งในขณะนี้เศรษฐกิจจีนยังไม่เกิดโมเมนตัมกลับสู่การฟื้นตัวเข้าที่เข้าทางแต่อย่างใด

“การเติบโตที่เชื่องช้าอาจจะแย่ลงอีกในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ หากรัฐบาลกรุงปักกิ่งยังไม่ใช้มาตรการที่แน่นอนและรัดกุม และยังไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นที่ได้ผล” ลู่ติง นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารอเมริกา คอร์ป ในฮ่องกง ให้ความเห็นพร้อมกับแนะด้วยว่า รัฐบาลกรุงปักกิ่งควรจะออกมาตรการกระตุ้นใดๆ ก็ตามที่จะต้องช่วยให้จีดีพีกลับมาเติบโตให้ได้ราว 1% เพื่ออุดช่องโหว่จากการส่งออกที่ลดลง

ขณะที่ปัญหาเงินฝืดนั้น เริ่มเห็นสัญญาณมากขึ้นจากอุปสงค์ที่ลดลงในตลาดภายในของจีน รวมไปถึงราคาสินค้าที่หน้าประตูโรงงานที่ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ภาวะเงินเฟ้อของราคาก็เบาบางลงแล้ว

สำหรับดัชนีราคาสินค้าผู้ผลิตของจีนปรับลดลงถึง 2.1% ในเดือน มิ.ย. จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดลง 4 เดือนติดกันแล้ว ขณะที่ราคาสินค้าผู้บริโภคก็เพิ่มขึ้นเพียง 2.2% เท่านั้น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2553 ทีเดียว

ทั้งนี้ ซ่งกั๊วฉิง เปิดเผยด้วยว่า ดูเหมือนว่าธนาคารกลางจีนอาจจะสั่งลดสัดส่วนการสำรองทุนของธนาคารพาณิชย์อีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพื่อกระตุ้นให้การปล่อยกู้กลับมาอีกครั้ง เนื่องจากระดับเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ไม่น่ากลัวแล้ว