posttoday

วันที่ร่วงโรยของแบล็คเบอร์รี่

01 กรกฎาคม 2555

วันที่ถดถอยของ รีเสิร์ช อิน โมชั่น ผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี่ ที่กำลังเผชิญปัญหายอดขายที่หดตัวลงอย่างรวดเร็ว

โดย...ทีมข่าวต่างประเทศ

รีเสิร์ช อิน โมชัน บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ตโฟนชื่อดังอย่าง “แบล็คเบอร์รี่” ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกขาดทุนมากกว่าที่คาด และยังต้องประกาศเลื่อนการออกแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง แบล็คเบอร์รี่ 10 ออกไปอีกด้วย เป็นสัญญาณร้ายแห่งยุคตกต่ำที่กำลังมาเยือนสมาร์ตโฟนชื่อดังที่เคยครองตลาดอย่างยิ่งใหญ่ ข่าวร้ายนี้มายังมาถึงพร้อมๆ กับการประกาศปลดพนักงานลงถึง 5,000 ตำแหน่ง

จะว่าไปแล้ว ข่าวร้ายดังกล่าวไม่ได้สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับตลาดเท่าใดนัก เพราะเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ทอร์สเทน ไฮนส์ ซีอีโอคนใหม่ของรีเสิร์ช อิน โมชัน เพิ่งจะเตือนไว้ว่า จากการแข่งขันทางด้านราคาและปริมาณสมาร์ตโฟนที่ออกมาจนล้นตลาดนั้น จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของแบล็คเบอร์รี่ในไตรมาสแรกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และดูเหมือนว่าผลประกอบการทางการเงินของบริษัทจะเป็นเรื่องยากสำหรับไตรมาสต่อๆ ไปด้วย ราคาหุ้นของแบล็คเบอร์รี่ปรับลดลงถึง 17% ไปอยู่ที่ 7.60 เหรียญสหรัฐ แล้วเมื่อวันศุกร์

วันที่ร่วงโรยของแบล็คเบอร์รี่

รีเสิร์ช อิน โมชัน เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทขาดทุนไปแล้ว 518 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 0.99 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ยอดขายแบล็คเบอร์รี่ทั้งหมดอยู่ที่ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากเดิมถึง 43% จาก 4,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และยังเป็นการปรับลดที่มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ว่า ยอดขายจะอยู่ที่ 3,100 ล้านเหรียญสหรัฐด้วย

ในไตรมาสแรกของปีนี้ รีเสิร์ช อิน โมชัน ส่งเครื่องไปขายทั่วโลกได้เพียง 7.8 ล้านเครื่อง และแท็บเล็ตอีก 2.6 แสนเครื่องเท่านั้น จนบริษัทต้องออกมาตรการ “ลดค่าใช้จ่าย” รวมไปถึงการตัดลดพนักงานลงถึง 5,000 ตำแหน่งดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของไฮนส์ บอกว่า “ผมไม่พอใจกับผลที่ออกมานัก และเราจะต้องทำงานอย่างหนักและเชิงรุกมากขึ้นในทุกๆ พื้นที่ขององค์กร รวมไปถึงบอร์ดผู้บริหาร เพื่อทำการปรับเปลี่ยนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมไปถึงการจัดสรรทรัพยากรใหม่ และเน้นการดำเนินงานในส่วนที่บริษัทมีโอกาสมากที่สุด

งานหลักของเราข้างหน้า คือ กาารเปิดตัวเครื่องสมาร์ตโฟนในแพลตฟอร์มแบล็คเบอร์รี่ 10 ซึ่งเราคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งเราจะทำงานในเชิงรุกกับที่ปรึกษาควบคู่ไปด้วยเพื่อทบทวนกลยุท์ของเรา รวมไปถึงการเพิ่มฐานลงทะเบียนกับแบล็คเบอร์รี่”

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง แบล็คเบอร์รี่เคยครองตลาดโทรศัพท์สมาร์ตโฟนทั่วโลกอย่างไม่มีใครไม่รู้จัก แต่เพียง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง แบล็คเบอร์รี่กำลังเข้าสู่ยุค “ถอยหลัง” อย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคกำลังเมินสมาร์ตโฟนเจ้าของตำรับปุ่มกดแบบควอเตอร์รีนี้มากขึ้น อีกทั้งการบริหารงานขององค์กรก็ไม่สามารถตอบโต้กับการบุกตลาดของไอโฟนจากฝั่งแอปเปิลได้เร็วเพียงพอ อีกทั้งยังมีคู่แข่งที่มาแรงอย่างระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าตลาดโทรศัพท์สมาร์ตโฟนของโลกไปแล้ว

ความหวังสุดท้ายของแบล็คเบอร์รี่ คือ ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของ “แบล็คเบอร์รี่ 10” แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความหวังในวันนี้ เพราะบริษัทต้องเลื่อนการเปิดตัวเวอร์ชันนี้ออกไปในปีหน้า แม้ว่า|ไฮนส์ ซีอีโอของบริษัทจะบอกว่า แพลตฟอร์มใหม่นี้ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างที่เร้าใจก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น จากความล่าช้าของ “แบล็คเบอร์รี่ 10” รีเสิร์ช อินโมชัน ยังจะพลาดโอกาสในการเพิ่มยอดขายในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของปีนี้ทั้งหมด โดยเฉพาะช่วงคริสต์มาสปลายปี แต่สำหรับคู่แข่งอย่างแอปเปิลและแอนดรอยด์แล้ว ทั้งสองฝั่งเตรียมออกรุ่นใหม่กันอย่างครึกครื้น ขณะที่ทางฝั่งไมโครซอฟท์ก็เตรียมเปิดตัววินโดวส์รุ่นใหม่ล่าสุดครั้งสำคัญด้วย

“สำหรับแบล็คเบอร์รี่ 10 ซึ่งจะออกมาที่หลังในปีหน้านั้น การจะเอาชนะดึงความสนใจจากลูกค้าและนักพัฒนาทั้งหลายนั้น ถือว่ามีโอกาสต่ำมาก” ชาล์ส โกลวิน นักวิเคราะห์จากฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช ให้ความเห็น

ปัญหาใหญ่ของแบล็คเบอร์รี่ในวันนี้ ไม่เพียงแต่ผู้บริโภคทั่วไปจะทิ้ง “แบล็คเบอร์รี่” และหันไปบริโภคแอปเปิลและหุ่นยนต์ตัวเขียวอย่าง แอนดรอยด์ แต่บริษัทจำนวนมากทั่วโลกกำลังดำเนินนโยบายที่เป็นภัยต่อแบล็คเบอร์รี่อย่างชัดเจน นั่นก็คือ การยกเลิกข้อจำกัดเดิมที่บริษัทหรือองค์กรทั้งหลายจะให้แบล็คเบอร์รี่เป็นโทรศัพท์ขององค์กร และเปิดทางให้พนักงานนำโทรศัพท์ของตัวเองมาใช้ได้แทน

และแน่นอน พนักงานเหล่านี้ก็เลือกใช้โทรศัพท์แบบที่ตัวเองต้องการมากกว่าที่ไม่ใช่แบล็คเบอร์รี่ โดยเฉพาะในอเมริกาเหนือ ที่ยอดการใช้แบล็คเบอร์รี่ในบริษัทหรือองค์กรกำลังหดตัวอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าเลือดกำลังไหลไม่หยุด

และนั่นได้ส่งผลให้สถานการณ์แข่งขันของของแบล็คเบอร์รี่ร่วงอันดับอย่างน่าใจหาย ตามหลังทั้งซัมซุง แอปเปิล และแม้กระทั่งโนเกีย

ที่แน่ๆ ที่สุด จากการประกาศเลื่อนแบล็คเบอร์รี่ 10 ไปยังปีหน้า นั่นหมายความว่า ผู้บริโภคจะได้ยินเสียงจากรีเสิร์ช อิน โมชัน น้อยลงๆ ทุกที อย่างน้อยที่สุดเชื่อว่าอีก 2 ไตรมาสต่อจากนี้ รีเสิร์ช อิน โมชั่น ก็จะต้องพบกับการขาดทุนอยู่ต่อไปเช่นเดิม ซึ่งกว่าจะมาลุ้นกันได้ใหม่ก็ต้องรอให้ถึงไตรมาสแรกของปีหน้าทีเดียวเมื่อแบล็คเบอร์รี่ 10 ถึงเวลาคลอดได้จริงๆ