posttoday

สื่อนอกอัดแม้วเหมือนแบร์ลุสโกนี

27 มิถุนายน 2555

คอลัมน์นิสต์บลูมเบิร์กชี้ "ทักษิณ" เป็นแบร์ลุสโกนีแห่งเอเชีย ใช้เส้นสายธุรกิจขึ้นสู่อำนาจ เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจครอบครัว

คอลัมน์นิสต์บลูมเบิร์กชี้ "ทักษิณ" เป็นแบร์ลุสโกนีแห่งเอเชีย ใช้เส้นสายธุรกิจขึ้นสู่อำนาจ เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจครอบครัว

สื่อนอกอัดแม้วเหมือนแบร์ลุสโกนี แบร์ลุสโกนี / ทักษิณ

บลูมเบิร์กเปิดเผยรายงาน ที่เขียนโดยวิลเลียม พีเซก คอลัมนิสต์ประจำของบลูมเบิร์ก ซึ่งได้เปรียบเทียบพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ว่าเป็น 'แบร์ลุสโกนีแห่งเอเชีย' เนื่องจากใช้วิธีการก้าวขึ้นสู่อำนาจวิธีเดียวกับ ซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลีผู้ฉาวโฉ่ ที่ใช้อำนาจและอิทธิพลเครือข่ายทางธุรกิจเป็นฐานสู่การเมือง  ก่อนจะเข้ากอบโกยเพื่อผลประโยชน์ของเจ้าตัวและครอบครัว โดยในสายตาของผู้ต่อต้านและพรรคฝ่ายค้านที่มีต่อพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ถือว่าทักษิณ เป็นคนที่มีความเจ้าเล่ห์ ไม่น้อยไปกว่า มาเคิอาเวลลี นักปรัชญาการเมืองชื่อดังชาวอิตาลี หรือ ริชาร์ด นิกสัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐผู้ก่อคดี วอเตอร์เกต อันอื้อฉาว

อย่างไรก็ตาม พีเซก กล่าวว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณประสบความสำเร็จนับตั้งแต่ถูกรัฐประหารและต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2549 มีอยู่ 3 ประการด้วยกัน ได้แก่ การแสดงบทบาทเป็นเหยื่อผู้ถูกรังแก การสร้างฐานการสนับสนุนจากต่างประเทศ และการคอยรังควานไม่ให้บรรดาผู้นำของไทยได้ก้าวไปข้างหน้า (ก้าวข้ามไม่พ้นทักษิณ)

ทั้งนี้แม้ พ.ต.ท.ทักษิณจะมีถิ่นที่พำนักอาศัยอยู่ในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต ทว่าพ.ต.ท.ทักษิณก็ได้เดินทางไปหลายประเทศ ตั้งแต่ จีน ญี่ปุ่น มอนเตรเนโกร ซึ่งเป็นประเทศที่รับรองหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ไปจนถึงอังกฤษ  และล่าสุดก็คือ ลาวและกัมพูชา ซึ่งยิ่งเพิ่มความหวาดระแวงให้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังอยู่คงรอบๆ ประเทศไทยนี่เอง

ขณะเดียวกัน คอลัมนิสต์ของบลูมเบิร์ก ยังมองว่าบางครั้ง อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยรายนี้ก็มักจะตีหน้าตายยกตัวเองขึ้นเปรียบเทียบกับ เนลสัน เมนเดลา อดีตประธานาธิบดีและนักเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมทางสีผิวแห่งแอฟริกาใต้ และ มหาตมะ คานธี ผู้นำเรียกร้องการปลดแอกในอินเดียด้วยสันติวิธี ทุกครั้งที่เดินทางไปยังต่างประเทศ ทักษิณจะไม่พลาดโอกาสที่จะแสดงออกให้เห็นว่าตัวเองเป็นเหยื่อผู้ยอมเสียสละ

อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่ส่งตัวปัญหาออกไปนอกประเทศเพื่อลดผลกระทบภายใน ดังเช่นที่จีนยอมเปิดทางให้ เฉิงกวงเฉิน ทนายตาบอดผู้เรียกร้องสิทธิมนุษยชนชาวจีนลี้ภัยไปอยู่สหรัฐนั้น อาจเป็นรูปแบบที่ไม่ได้ผลกับไทย เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณกลับใช้โอกาสดังกล่าวว่าจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์และดูแลภาพพจน์ต่างชาติเพื่อช่วยทำให้ภาพพจน์ดีขึ้น โดยได้ว่าจ้างบริษัทอีเดลแมน พับลิค รีเลชันส์ และบริษัทล็อบบี้ยิสต์สหรัฐ ฮาร์เลย์ บาร์เบอร์ ของอดีตผู้ว่าการรัฐมิซิสซิปปี

สำหรับสาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังคงครองใจคนไทยกว่าหลายล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนยากจนได้นั้น เป็นได้ใช้เงินจำนวนมาก อัดฉีดเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นในต่างจังหวัด และทำให้คนในท้องถิ่นตามต่างจังหวัดเกิดความคิดว่า เจ้าตัวกำลังเลือกตั้งเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจหากเลือกพ.ต.ท.ทักษิณ อีกทั้งโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ก็ได้รับความนิยมมาก ซึ่งการมีฐานเสียงสนับสนุนที่แข็งแกร่งเช่นนี้เอง ที่ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณก้าวข้ามชนชั้นนำเดิมของไทยไป  

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น พีเซก ได้ทิ้งท้ายและให้ข้อแนะนำว่า ถึงเวลาที่ควรจะหยุดวิพากษ์วิจารณ์พ.ต.ท.ทักษิณเพียงอย่างเดียวได้แล้ว เพราะดูเหมือนว่านับตั้งแต่เกิดรัฐประหารจนถึงปัจจุบัน บรรดาผู้นำ นายทหาร และศาล ต่างก็ไม่สามารถทำให้การเมืองของประเทศก้าวหน้าไปได้เลย

ที่สุดแล้ว ประเทศไทยอาจต้องติดหล่มทักษิณต่อไปอีก 6 ปีข้างหน้า หรือไม่อย่างนั้นก็อาจเลือกทางที่ดีกว่าคือ ควรจะปล่อยให้ทักษิณกลับเข้าประเทศ เพื่อสะสางปัญหาวุ่นวายทั้งหมดให้จบลง

***อ่านบทความภาษาอังกฤษของ วิลเลียม พีเซกได้ที่นี่***

http://www.bloomberg.com/news/2012-06-25/the-silvio-berlusconi-of-asia.html