แลนด์มาร์คใหม่ในพัทยา สิงห์ ดีลักษณ์ ซีเนมาติก เธียเตอร์

โดย...พาแลง

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี พัทยาก็ยังมีเสน่ห์ที่ชวนให้ไปเยือนแบบไม่รู้เบื่อได้บ่อยๆ เพราะการเดินทางที่ไปมาสะดวก ได้กินอาหารทะเล และนอนรับลมริมทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใหม่ๆ ให้เดินเล่นอีกไม่น้อย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้โรงละครแห่งใหม่ใจกลางพัทยา และได้รับการคาดหมายว่าที่นี่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของพัทยาด้วย ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับโรงละคร สิงห์ ดีลักษณ์ ซีเนมาติก เธียเตอร์

โรงละครแห่งนี้ชูโรงด้วยการแสดงสดในชื่อโชว์ว่า “คาน (KAAN)” ที่นำเทคนิคระดับโลกมาใช้ในการแสดง ผสานกับเรื่องราววรรณคดีชิ้นเยี่ยมไทยมาสร้างสรรค์ใหม่ให้กลายเป็นความมหัศจรรย์ผ่านการแสดงสด ศาสตร์การแสดงและเคลื่อนไหว ทั้งนาฏยศิลป์ กายกรรม การเต้นรำร่วมสมัย ผสมผสานภาพยนตร์ และดึงผู้ชมท่องไปในโลกจินตนาการผ่านเทคนิคระดับโลก การฉายภาพเชิงสร้างสรรค์แบบ High Definition Projection Mapping เทคโนโลยีหุ่นยนต์ยักษ์ State of the Art Animatronics เทคโนโลยีหุ่นเชิดขนาดใหญ่ในรูปแบบ Gigantic Creature เทคโนโลยีระบบแสงสีเสียงมาตรฐานสากล มีนักแสดงกว่า 600 ชีวิต ซึ่งทุกคนต่างทุ่มเทในการเตรียมงานโดยใช้เวลากว่า 3 ปี นักแสดงและทีมงานเบื้องหลังผ่านการฝึกฝนอย่างหนักมากกว่า 2 ปี

นอกจากสุดยอดการแสดงสด KAAN Show แล้ว ศาสตร์แห่งสถาปัตยกรรมของโรงละครแห่งนี้ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อยเช่นกัน บนพื้นที่รวมกว่า 10 ไร่ โรงละครรองรับผู้ชมได้ถึง 1,400 ที่นั่งต่อรอบการแสดง ด้วยสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ภายใต้แนวคิดของ “Levitating” หรือ “การลอยตัว” ในการออกแบบ จึงส่งผลให้ สิงห์ ดีลักษณ์ ซีเนมาติก เธียเตอร์ กลายเป็น Levitating Theatre หรือโรงละครลอยได้แห่งแรกของโลก เอกลักษณ์ที่โดดเด่นเพื่อเสริมแนวคิดโรงละครลอยได้แห่งแรกของโลก คือบริเวณฟาซาด (Facade) หรือพื้นผิวด้านหน้าอาคารที่สะท้อนเสน่ห์แห่งมายาได้อย่างดี โดยพื้นผิวของอาคารส่วนนี้สามารถเห็นความพลิ้วไหวได้ราวเกลียวคลื่น

ด้านการตกแต่งภายในก็ได้มือดีอย่าง บริษัท จาร์เค็น (JARKEN) บริษัทชั้นนำของไทยที่มีชื่อเสียงระดับสากล ซึ่งได้หยิบเอาศิลปะการแสดงไทยสมัยโบราณที่เรียกว่า “ปะเลง” ซึ่งเป็นการรำเบิกโรงของ “ละครใน” ในสมัยก่อนมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ (ละครชาววังในอดีตเพื่อสิริมงคล และปัดเป่าสิ่งไม่ดีที่จะเป็นอุปสรรคออกไปจากการแสดง) มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบด้วยนัยที่ได้ของการร่ายรำจากการใช้ผู้ร่ายรำ 2 คน แต่งกายด้วยชุดสีเขียวมรกต สวมหน้ากากสีเหลืองทองและเขียวเพื่อปกปิดใบหน้าในการแสดง นำไปสู่การสร้างคอนเซ็ปต์การออกแบบ “การซ่อน ปกปิด อำพราง” และการถือกำหางนกยูงสะบัดตวัดไปมาเป็นท่าร่ายรำ

การเชื่อมต่อดีไซน์จากภายนอกสู่ภายใน เช่นเดียวกับแนวคิดของ “การลอยตัว” ที่ไม่ใช่เพียงตัวโรงละครเท่านั้นที่ลอยได้ แต่ยังรวมถึงทุกรายละเอียดของงานออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน ที่ให้ความรู้สึกเหมือนลอยได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงเงา ฝ้า ผนัง กระจก และพื้นผิวต่างๆ ที่สำคัญการออกแบบภายในดังกล่าว ยังคว้ารางวัล Silver Award สาขา Public Space จากเวที SINGAPORE INTERIOR DESIGN AWARDS (SIDA) ซึ่งจัดโดย Society of Interior Designers, Singapore (SIDS) ภายในงาน SingaPlural Celebrating Design 2017 ด้วย

ที่นั่งของสิงห์ ดีลักษณ์ ซีเนมาติก เธียเตอร์ ถูกแบ่งออกเป็น 4 โซน แต่ละโซนถูกตั้งชื่อโดยใช้ส่วนต่างๆ ของโลก แทนมุมมองของการมองเห็น เพื่อให้คุณรู้สึกเสมือนได้ผจญภัยไปในโลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเหนือจินตนาการ เมื่อละครเริ่มแสดงแต่เดิมในโรงละครจะไม่มีฝ้า และจะมืดสนิทเมื่อการแสดงเริ่ม ดังนั้นเมื่อผนังส่องสว่างก็จะเป็นการล่อหลอกสายตาคนจากฝ้าและเวทีที่ค่อยๆ มืดลง

ระหว่างรอรอบการแสดงด้านนอกมีร้าน Greyhound café ซึ่งใช้เป็นที่แฮงเอาต์ระหว่างรอชมการแสดงหรือนั่งชิลต่อหลังจากการแสดงจบแล้วก็ได้ และปิดท้ายด้วยส่วนของร้านขายของที่ระลึก ที่ยังคงรักษาอารมณ์จากการดูโชว์เพื่อที่จะให้ผู้ที่เข้ามาซื้อของ ยังรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของละครต่อเนื่อง ด้วยการนำฉากหนึ่งในเนื้อเรื่องของละครมาเป็นคอนเซ็ปต์ ในการตกแต่งเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงให้ถึงความรู้สึกภายในอย่างมีมิติ ที่เราพยายามสร้างความต่อเนื่องให้ทั้งผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมสถานที่ได้รู้สึกสนุกและประทับใจ