posttoday

ชูโงะคุ ความงามที่ซ่อนอยู่ในความสงบ

23 กุมภาพันธ์ 2562

มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นเฉลี่ยมากกว่า 1 ล้านคน/ปี

มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นเฉลี่ยมากกว่า 1 ล้านคน/ปี แต่มีเพียง 1% เท่านั้นที่มาท่องเที่ยวในภูมิภาคชูโงะคุ (Chugoku)

หมุดหมายของนักเที่ยวทั่วโลกน้อยนักที่จะปักหมุดมาเช็กอินที่ชูโงะคุ และหลายคนแทบไม่รู้จักชูโงะคุเสียด้วยซ้ำ แต่ถ้าเอ่ยถึง ฮิโรชิมา ทุกคนคงร้อง อ๋อ!

หากรู้จักเพราะสถานที่นี้เป็นจุดทิ้งระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นละฮิโรชิมา เป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคชูโงะคุ

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) จึงอยากชวนเชิญนักท่องเที่ยวมาเปิดประสบการณ์ใหม่ สัมผัสความงามที่แตกต่าง ซึ่งในภูมิภาคชูโงะคุได้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะสายถ่ายภาพ สายช็อป สายชิม สายแช่ออนเซ็นฯลฯ ด้วยความหลากหลายของภูมิประเทศ บรรยากาศ ทำให้ชูโงะคุเป็นอีกพื้นที่ที่น่าไปเยือน

ชูโงะคุสัมผัสญี่ปุ่นโบราณ

ชูโงะคุ ความงามที่ซ่อนอยู่ในความสงบ

ภูมิภาคชูโงะคุตั้งอยู่ทางริมขอบฝั่งตะวันตกของเกาะฮอนชู (Honshu) ประกอบไปด้วย 5 จังหวัด ไล่ตั้งแต่ตอนบนลงล่าง ได้แก่ ทตโตริ (Tottori) ชิมะเนะ (Shimane) โอคะยะมะ (Okayama) ฮิโรชิมา (Hiroshima) และยะมะงุชิ (Yamaguchi)

ถ้าเทคโนโลยีสมัยใหม่กล้ำกรายให้ผู้คนทั่วโลกข้ามวัฒนธรรมกันได้ แต่ที่ชูโงะคุในหลายๆ แห่งคุณจะยังได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นโบราณ ซึ่งภูมิภาคนี้เคยเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยก่อน เป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจ ขนส่งลำเลียงสินค้า หลายหมู่บ้านเป็นจุดพักที่ยังมีร่องรอยของความเรืองรอง

พื้นที่ภูมิภาคชูโงะคุมีภูเขาพาดผ่านกลาง ทำให้แบ่งเป็น 2 ส่วน พื้นที่ด้านบนที่เรียกว่า ซันอิน (San’in) มีความเป็นชนบท ธรรมชาติ ติดทะเลญี่ปุ่น จุดเด่นคือ เนินทะเลทรายทตโตริ หมู่บ้านซามูไร และศาลเจ้าแห่งความรัก

ส่วนด้านล่างเรียกว่า ซันโย (Sanyo) เป็นเมืองที่มีความเจริญ เด่นด้านวัดวาอารามที่โด่งดัง ศาลเจ้ากลางน้ำ ปราสาทที่เก่าแก่ และถ้ำโบราณ

ความหลากหลายของสถานที่และความโดดเด่นในวิถีชีวิต อาหารพื้นเมือง แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่น่าสนใจ เชื่อขนมกินได้เลยว่า เข็มทิศของนักท่องเที่ยวจะเบนเข็มมาที่ภูมิภาคชูโงะคุได้ไม่ยากเลย

ฮิโรชิมา หลากเสน่ห์ที่ยากลืมเลือน

ชูโงะคุ ความงามที่ซ่อนอยู่ในความสงบ

“อะตอมมิก บอมบ์ โดม” (Atomic Bomb Dome) อาคารที่ยังคงสภาพคล้ายซากปรักหักพัง ซึ่งยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอนุสรณ์จากเหตุการณ์ทหารอเมริกันได้ทิ้งระเบิดปรมาณูลงสู่เมืองฮิโรชิมาเป็นครั้งแรกในโลก 6 ส.ค. 1945 จนก่อให้เกิดความเสียหายและสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

จุดทิ้งระเบิดปรมาณูและบริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนาเป็น “สวนสันติภาพฮิโรชิมา”กลายเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น

ไฮไลต์อีกแห่ง คือ “ปราสาทฮิโรชิมา” (Hiroshima Castle) หรือเรียกอีกชื่อว่าปราสาทปลาคาร์ป เพราะมีปลาคาร์ปจำนวนมากที่สระน้ำที่ล้อมปราสาท และจุดนี้สามารถนั่งเรือชมวิวรอบๆ ภายนอก ได้ภาพรรยากาศอีกมุมของปราสาทฮิโรชิมาที่สะท้อนแสงแดดเล่นเงากับแผ่นน้ำ

ปราสาทแห่งนี้โดนระเบิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งหลัง ที่เห็นคือบูรณะฟื้นฟูใหม่ทั้งหมด มี 5 ชั้น แต่ละชั้นมีประวัติจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ เช่น เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ อาวุธ ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวเมืองฮิโรชิมา

อีกแห่งต้องนั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือมิยะจิมะกุชิไปเกาะมิยะจิมะ จัดเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คขึ้นชื่อของฮิโรชิมา นั่นคือ เสาโทริอิสีส้มแดงอันโดดเด่นตั้งอยู่กลางน้ำณ “ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ” (Itsukushima Shrine)

จุดชมที่ทั้งใกล้ไกล เพราะบริเวณนี้จะมีปรากฏการณ์น้ำขึ้นลงทุก 6 ชั่วโมง เวลาน้ำขึ้นจะชมจากฝั่งหรือนั่งเรือไปชมใกล้ๆ ก็ได้ และเวลาน้ำลงก็สามารถเดินลงไปชมใกล้ๆ ได้ ซึ่งเสาโทริอิมีขนาดมหึมาเลยทีเดียว ไม่ต้องห่วงว่าจะจมโคลนทราย

อีกเสน่ห์ของเกาะมิยะจิมะ คือ กวาง จนได้ที่มาว่า เกาะกวาง มีกวางเดินปนกับฝูงชนอยู่เป็นระยะ ส่วนอาหารขึ้นชื่อ คือ หอยนางรม มีทั้งเผา ทอด หรือรับประทานสดๆ แต่ที่เห็นเรียงรายอยู่ตามเส้นทางร้านค้าคือ หอยเผา ขนาดตัวเบ้อเริ้ม รสชาติหวานสดใหม่ ใครไปถึงถิ่นไม่ลองถือว่าพลาด

นั่งเรือแล้วมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้ากันบ้างเพื่อไปไหว้พระบนภูเขา ที่ “วัดเซนโคจิ” (Senkoji Temple) เมืองโอโนมิจิ (Onomichi)กระเช้ามาส่งถึงจุดบนสุด เป็นจุดชมวิวมองเห็นเมืองและทะเล และไม่พลาดมีกิมมิกพวงกุญแจคู่รักให้คล้อง

ขาลงแนะนำให้เดินลง เพราะวัดอยู่บริเวณตรงกลาง ไหว้พระเสร็จ ค่อยๆ เดินชมวิวลงมา สำหรับทาสแมวรับรองว่ามีทีเด็ดรออยู่ เพราะระหว่างเดินจะผ่านตรอกแมวหรือซอยแมวเดิน วันที่ไปเจอตัวเป็นๆ ไม่กี่ตัว ที่โผล่มาทักทาย แต่ระหว่างทางมีร้านค้าหลายร้านขายสินค้าเกี่ยวกับแมว มีคาเฟ่แมว
มีรูปวาด รูปปั้นแมวอยู่เป็นระยะๆ ตามหิน ตามกำแพง ประตูบ้าน

ลงเรือกันบ้าง จากท่าเรือทาดะโนะอุมิไปที่ “เกาะโอคุโนะชิมะ” (OkunoshimaIsland) หรือเกาะกระต่าย จากเรื่องราวแสนเศร้าสู่เกาะแสนน่ารัก มีกระต่ายน่ารักๆนับพันตัว เพราะช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลี้ยงกระต่ายไว้เพื่อการทดลองกระต่ายเพียงไม่กี่ตัวที่หลงเหลืออยู่จึงออกลูกออกหลานมา บนเกาะนี้มีโรงแรมหนึ่งแห่ง มีออนเซ็นรวมแบบอินดอร์ให้แช่ด้วย

โอคะยะมะ ธรรมชาติกับความงาม

ชูโงะคุ ความงามที่ซ่อนอยู่ในความสงบ

ปราสาทสีดำตั้งเด่นตระหง่าน คือ “ปราสาทโอคะยะมะ” (Okayama Castle) ได้รับฉายาว่า “ปราสาทอีกาทอง” มียอดหลังคาบางส่วนเคลือบสีทอง ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ หลังถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

มี 6 ชั้น ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติความเป็นมา ชั้นบนสุดมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบปราสาท และเห็นสวนโคราคุเอน (Korakuen Garden)

สถาปัตยกรรมของปราสาทโอคะยะมะ มีเหลี่ยมมุมของอาคารที่ไม่เท่ากัน ดูคล้ายอีกากระพือปีก เป็นเสน่ห์ที่ทำให้การถ่ายภาพปราสาทเพียงขยับองศาก็ได้มุมมองที่แตกต่าง ผู้สร้างปราสาทชื่อ Ukuta Hiddie

มาต่อกันที่ “ศาลเจ้าคิบิสึ” ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า สมัยก่อนมียักษ์ชื่อ อุระไล่ทำร้ายชาวบ้าน ก่อความไม่สงบสุข ต่อมาเทพเจ้าคิบิสึได้ร่วมมือกับ สุนัข นก ลิงมาช่วยกันขับไล่ยักษ์อุระ และปราบปรามยักษ์ให้สงบลงในที่สุด

จนกลายเป็นต้นกำเนิดโมโมทาโร่ นิทานอันโด่งดังของญี่ปุ่น ซึ่งเทพเจ้าคิบิสึนี้มีอายุยืนยาวมาก ประมาณ 200 กว่าปี ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ชาวญี่ปุ่นมักมาขอพรเกี่ยวกับอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง

ทางเดินขึ้นศาลเจ้าค่อนข้างสูงชันเมื่อเดินขึ้นไปข้ามธรณีประตู จะมีศาลเจ้าด้านหน้าเลย โยนเหรียญทำบุญแล้ว โค้งคำนับ 2 ครั้ง ตบมือ 2 ครั้งเพื่อเรียกเทพเจ้า พร้อมกับพูดชื่อตัวเองแล้วขอพรเสร็จแล้วโค้งคำนับ 2 ครั้ง

ภายในบริเวณศาลเจ้า มีอาคารซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น คือ มีจั่ว 2 อันประกอบกันเป็นหลังคา4 ด้าน อายุประมาณ 600 กว่าปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นและอีกจุดที่เป็นไฮไลต์ของช่างภาพ คือ ทางเดินลาดยาว 360 เมตร

“เขตอนุรักษ์เมืองเก่าคัตสึยามะ”(Katsuyama Historical Preservation District) มีเอกลักษณ์ที่ผ้าม่านญี่ปุ่น(โนแร) แขวนอยู่หน้าบ้าน มีลวดลายและสีสันงดงาม เดินถ่ายรูปสวยๆ ทุกมุม ถ้าไม่ใช่วันหยุดบรรยากาศเงียบสงบมาก

“หมู่บ้านน้ำพุร้อนยุบะระ” (Yubara Onsen) อยู่ตอนบนของโอคะยะมะ เป็นแหล่งออนเซ็นที่ดีที่สุดในแถบตะวันตก บรรยากาศแสนสงบ

หมุดหมายที่นักท่องเที่ยวยอมดั้นด้นมา คือ บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง “Sunayu” เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยรู้จัก ทำให้สถานที่นี้ประหนึ่งบ่อออนเซ็นส่วนตัวขอบอกว่าสวรรค์ของคนรักการแช่ออนเซ็น รีบมาดื่มด่ำความงามท่ามกลางขุนเขาและไอน้ำพุร้อน

แวะกินอาหารกันบ้างดีกว่า มาโอคะยะมะต้องลองเมนูพื้นเมืองประจำย่านคุระชิกิ คือ “คะเอชิซูชิ” (Kaeshi Sushi) ข้าวหน้าปลาดิบ ที่มีเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ที่เจ้าเมืองอยากให้ประชาชนกินอยู่อย่างง่ายๆ ประหยัด แต่ประชาชนอยากกินกับหลายอย่าง จึงใช้กลลวงด้วยการทำข้าวหน้าไข่หวานดูแสนธรรมด๊าธรรมดาพอเจ้าหน้าที่มาตรวจจากไป ก็พลิกอีกด้านขึ้นมาซึ่งอุดมไปด้วย กุ้ง หอย เนื้อปลานานาชนิด

ยะมะงุชิ สะพานไม้สวยติดอันดับ

ชูโงะคุ ความงามที่ซ่อนอยู่ในความสงบ

อีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาด คือ “สะพานคินไตเกียว” (Kintaikyo Bridge)ที่เมืองอิวะคุนิ จังหวัดยะมะงุชิ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำคะระวะอัน มีลักษณะโค้งๆ5 โค้ง ติดอันดับ 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น เมื่อข้ามมายังอีกฝั่งจะเจอร้านขายไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ซึ่งมีมากมายหลายรสชาติให้เลือก

ญี่ปุ่นยังมีอีกหลายสถานที่และหลากบรรยากาศให้นักท่องเที่ยวมาสัมผัสลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ ชูโงะคุแล้วคุณจะไม่ผิดหวัง