posttoday

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (4)

02 ธันวาคม 2561

แดดกำลังดี ท้องฟ้าสีสดใส ก้อนเมฆน้อยใหญ่ลอยต่ำอยู่เบื้องหน้า

แดดกำลังดี ท้องฟ้าสีสดใส ก้อนเมฆน้อยใหญ่ลอยต่ำอยู่เบื้องหน้า ราวกับว่าเรากำลังขับรถอยู่บนถนนที่ขนาบด้วยท้องฟ้าและหมู่ก้อนเมฆ แต่ไม่นานนักความสดใสก็ถูกเมฆฝนเข้ามาแทนที่ ฝนรำคาญเทลงมา ไม่กี่อึดใจก็ซาหายไป เป็นอย่างนี้ตลอดทาง ตอนนี้ GPS กำลังนำทางเราไปเกาะ Yagaji เพื่อข้ามไปยังเกาะที่แยกออกมาจากเกาะใหญ่ “เกาะแห่งความรัก”

เกาะ Kouri (ชื่อเดิมเรียกว่า Kuijima) หรือเกาะแห่งความรัก เป็นสถานที่เที่ยวที่เพิ่งได้รับความนิยมไม่นานมานี้ มีทะเลสีเขียวมรกตที่สวยงาม ชายหาดทะเลน้ำใส ทั้งยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอยู่หลายจุด จึงทำให้เกาะโคริเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ไม่ควรพลาด ตามตำนานเรื่องอดัมกับอีฟแบบฉบับโอกินาวา

ว่ากันว่าในอดีตมีผู้ชายและผู้หญิง 1 คู่ อาศัยอยู่บนเกาะ ดำรงชีวิตด้วยการเก็บโมจิที่ร่วงลงมาจากฟ้า แต่เมื่อได้เก็บตุนโมจิไว้โมจิกลับไม่ร่วงลงมาอีกเลย ทั้งสองไม่มีอาหารประทังชีวิต จึงเริ่มเรียนรู้วิธีการหาปลา หอย มาเป็นอาหาร อยู่มาวันหนึ่ง ได้เห็นพะยูนในทะเลผสมพันธุ์กัน

ทั้งคู่จึงได้เรียนรู้การดำรงเผ่าพันธุ์ จึงกำเนิดเป็นชาวริวกิว เพราะเรื่องเล่าขานดังกล่าว เกาะแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า เกาะแห่งความรัก นั่นเอง อีกทั้งยังมีหินรูปหัวใจซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักอีกด้วย

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (4)

เราขับรถมาเรื่อยๆ จนมาถึงเส้นทางที่จะพาเราไปยังจุดหมาย ความรักจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีการทอดสะพานก่อนจริงไหม เราต้องข้ามสะพานใหญ่ Kouri ไปยังเกาะแห่งความรัก สะพานแห่งนี้เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในโอกินาวา มีความยาวประมาณ 2 กม. เชิงสะพานมีจุดจอดรถชมวิวได้ เส้นทาง 2 กม.นี้ เป็นเส้นทางที่สวยงามมาก น้ำทะเลสีเขียวมรกตตัดกับท้องฟ้า ให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นปลาที่กำลังแหวกว่ายอยู่กลางทะเล

บริเวณทางเข้าเกาะมีร้านอาหาร จุดพักรถ มีคาเฟ่หลายแห่ง และมีชายหาดหลักที่สามารถดื่มด่ำบรรยากาศเพลิดเพลินกับทัศนียภาพและน้ำทะเลใสๆ ได้ ส่วนสถานที่เที่ยวจะกระจายอยู่รอบๆ เกาะ เราจึงสามารถเที่ยวเป็นวงกลมได้ ที่แรกที่เราจะไป คือ Kouri Ocean Tower แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเกาะ เราจอดรถและนั่งรถกอล์ฟไฟฟ้าขึ้นมายังด้านบน

ภายในมีพิพิธภัณฑ์หอย ที่จัดแสดงหอยที่อยู่รอบเกาะโอกินาวา และหอยแปลกๆ จากทั่วโลก มากกว่า 1 หมื่นชิ้น มีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก เราขึ้นลิฟต์ไปยังจุดชมวิวชั้นบนหอคอยที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 82 ม.

จุดนี้เราสามารถมองเห็นสะพานใหญ่โคริ พร้อมทั้งวิวน้ำทะเลสีเขียวมรกตโดยรอบเกาะได้อย่างตื่นตาตื่นใจ ยังมีระฆังแห่งความรัก ที่มักมีคู่รักมาสั่นระฆัง อาจจะเป็นเหมือนการส่งสัญญาณไปหาเทพเจ้าให้ช่วยให้ชีวิตรักสดใส แต่สำหรับคนโสดก็อย่างเพิ่งน้อยใจสามารถสั่นระฆังได้เช่นกัน เพื่อขอเทพเจ้าช่วยนำความรักมาให้

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (4)

ต่อจากนั้น ไปตามหาหัวใจกันต่อที่ Heart Rock ซึ่งอยู่ที่หาด Tinu ห่างจาก Kouri Ocean Tower ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น จอดรถแล้วเราก็สามารถเดินลงที่ชายหาดได้ ทางเดินแห่งรักมักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบฉันใด ก็เหมือนกับเส้นทางไปยังหินรูปหัวใจฉันนั้น เราต้องเดินอย่างระมัดระวัง อย่ามัวสนใจวิวที่อยู่ตรงหน้ามากนัก ต้องสังเกตและมองทางให้ดี

ตลอดทางเดินมีโขดหินที่ฝังอยู่ในทราย เหมือนเป็นทางเดินที่ถูกน้ำเซาะไหล ไม่ได้เป็นทางเดินสบายราบเรียบ ยิ่งตอนจะลงไปชายหาดยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เป็นทางชันที่ต้องค่อยๆ เดินลงมา มิฉะนั้นอาจได้ล้มหน้าคะมำเป็นแน่ จากเส้นทางเดินเท้าด่านทดสอบ ก็มาพบกับโขดหิน 2 ก้อนที่ถูกกัดเซาะด้วยน้ำทะเล รูปร่างคล้ายหัวใจ 2 ดวง เป็นผลงานสร้างสรรค์ความรักจากธรรมชาติ

นับเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมและเป็นไฮไลต์ของเกาะโคริ นอกจากนี้บนเกาะยังมีที่เที่ยวและจุดชมวิวอยู่หลายที่ แต่เนื่องจากเรามีแพลนที่ต้องขับรถไปให้ทันดูพระอาทิตย์ตก จึงเที่ยวได้แค่ 2 ที่เท่านั้น แต่ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ที่หมายต่อไป ก็ไม่พลาดแวะเก็บภาพความสวยงามของสะพานโคริที่ทอดยาวไปไกลอีกฝั่ง แล้วจึงมุ่งหน้าสู่แหลม Manzamo

เราขับรถไปตามถนนเส้นหลักเลียบชายฝั่งมาเรื่อยๆ จนมาถึงทางเข้าแหลมมันซาโมะ ภายในมีลานจอดรถฟรีขนาดใหญ่พอสมควร มีร้านขายของที่ระลึกอยู่ระหว่างสองข้างของที่จอดรถ แหลมมันซาโมะมีโขดหินลักษณะคล้ายงวงช้าง จึงมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าแหลมงวงช้าง เป็นจุดชมวิวและสามารถชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในโอกินาวา มีทางเดินเล่นชมวิวประมาณ 80 ม.

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (4)

ลมเย็นๆ ในตอนนี้ทำให้เราเริ่มรู้สึกง่วงเล็กน้อย ประกอบกับบรรยากาศและวิวตอนนี้มันช่างดีงามเหลือเกิน ท้องทะเลสีฟ้าครามถูกย้อมสีด้วยแสงสีทองของดวงอาทิตย์ อยากจะพักนั่งเล่นอยู่ตรงนี้มองไปยังผืนน้ำที่ไกลสุดลูกหูลูกตาจนกว่าตะวันจะชิงพลบ แต่ก็ได้แค่คิด เพราะเรายังต้องเดินทางไปยังที่พักซึ่งอยู่แถว Yomitan ห่างจากแหลมมันซาโมะใช้เวลาประมาณ 30 นาที

อีกอึดใจเดียวเราก็จะได้นอนพักผ่อนได้อย่างสบายใจ แต่แล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อคุณหลงทาง ในที่สุดเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นจนได้ มีสติแล้วตั้งพิกัดหาเส้นทางใหม่ เราใช้ Google map ช่วยหาเส้นทางไปด้วย จนเริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง เราขับไปตามเส้นทางที่ใกล้ที่สุดจากคำแนะนำของกูเกิล แต่ก็ต้องตกใจ เพราะเส้นทางที่อยู่เบื้องหน้าไม่มีรถแม้แต่คันเดียว

มีเพียงแสงไฟจากหน้ารถเราเท่านั้นที่เป็นแสงนำทาง ข้างทางเป็นป่า มีรั้วกั้นตลอดทาง เปลี่ยวและวังเวง บรรยากาศตอนนี้เหมือนอยู่ในหนังสยองขวัญชัดๆ ภาวนาไม่อยากให้มีอะไรข้างทางโผล่มาทักทายให้ตกใจเล่นทั้งนั้น แต่ก็รู้สึกอุ่นใจอยู่ไม่น้อยที่เรายังพบเห็นตู้กดน้ำ อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าเส้นทางนี้น่าจะมีคนขับสัญจรอยู่บ้าง แต่แค่ไม่มีในช่วงกลางคืนเท่านั้นเอง

จนในที่สุดเราก็เจอไฟจากถนนใหญ่เสียที ขับมาถึงย่าน Yomitan ที่พักเราอยู่บนเขา ลักษณะเป็นบ้านเช่าที่ด้านล่างเป็นบ้านของเจ้าของบ้านมีบันไดแยกไปที่พักด้านบน มีที่จอดรถให้ฟรี ในห้องมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ครัว อ่างล้างจาน ตู้เย็น ทีวี หรือเครื่องดริปกาแฟ เอาเป็นว่าอะไรที่บ้านหลังหนึ่งควรมีที่นี่มีบริการหมด สะดวกสบายมาก

ขับไปเที่ยวไป ในโอกินาวา (4)

แต่ข้อเสียคือบันไดขึ้นไปค่อนข้างแคบและมีหลายชั้น ถ้าใครมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อาจจะแบกขึ้นไปลำบาก เราจึงต้องแยกของใช้ใส่กระเป๋าเล็กอีกที วันนี้เที่ยวไล่มาตั้งแต่เช้าจนมืดค่ำ ทั้งตะลุยเกาะแห่งความรัก ชมพระอาทิตย์ตก แถมยังได้ประสบการณ์ตื่นเต้นในการขับรถมาอีกด้วย นับว่าวันนี้เป็นวันที่ยาวนานและคุ้มค่าจริงๆ