ข้าวต้มกุ๊ย พุ้ยกับแกล้ม หมูสับผัดโหระพาปลาเค็ม

เรื่อง สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studio

ปีนี้ของผู้เขียนถือเป็นปีที่เวลาเดินไปอย่างรวดเร็วที่สุด บางครั้งทำงานเสียจนลืมไปว่ากับข้าวหมดตู้เย็นเอาดื้อๆ ทำเอาเวียนหัวเมื่อถึงมื้ออาหารที่จะต้องกับข้าวให้สมาชิกในบ้านรับประทาน

ยังดีที่มีอาหารติดตู้เย็นไว้บ้างที่มักจะขาดไม่ได้ คือ หมูสับหรือหมูบดหยาบ อาทิตย์หนึ่งๆ ที่บ้านของผู้เขียนรับประทานกันไม่ต่ำกว่า 3 กิโลกรัม เพราะสมาชิกเป็นเด็กส่วนใหญ่ หมูสับจึงเป็นวัตถุดิบง่ายๆ ที่เรามีติดบ้านไว้ เอามาผัด ขยำ ปั้นก้อน ต้มแกงจืด ใส่ไข่ตุ๋น เรียกว่าทำได้ทุกเมนูแม้กระทั่งเพิ่มโปรตีนในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สำหรับบ้านผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อหมูอาจจะมีไก่บดเป็นวัตถุดิบในตู้เย็นเช่นกัน

ต้นเหตุของเมนูในฉบับนี้มาจากอาหารมื้อง่ายๆ ที่บ้าน วันที่กับข้าวเกือบหมดตู้เย็น จัดแจงหุงข้าวต้ม แล้วงัดเอาเครื่องกระป๋อง ไม่ว่าจะเป็นเต้าหู้ยี้ขาว ผักกาดดอง ฟองเต้าหู้ขวดที่ซื้อมาจากร้านเจ้เล้งแถวดอนเมือง เรียงรายบนโต๊ะให้ดูเหมือนมีกับข้าวหลากหลาย อยากจะผัดกับข้าวร้อนๆ อีกสักอย่างเพื่อให้สมาชิกรับประทานได้อิ่มอุ่นท้องอีกสักหน่อย เปิดตู้เย็นที่โล่งจนน่าตกใจพบว่ามีปลาเค็มเหลืออยู่ 1 ชิ้นในขวดดองน้ำมัน และมีหมูสับอยู่เพียง 3-4 ขีด ที่แบ่งเอาไว้เป็นถุงๆ เพื่อทำกับข้าวในแต่ละมื้อ

นึกถึงมะเขือยาวผัดหมูสับผัดปลาเค็มที่เคยรับประทานจากร้านอาหารจีน แต่ไม่มีมะเขือยาวในตู้เย็น เอาล่ะลองผัดดูสักครั้งเอาให้เหมือนสูตรเด็ดจากร้านอาหารจีน เพียงแต่ตัดเอามะเขือยาวออกไป ว่าแล้วผู้เขียนก็เดินไปที่แปลงผักสวนครัวเด็ดโหระพาที่ชูช่ออยู่อย่างแน่นขนัดใส่ตะกร้าขึ้นมาทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว

กรรมวิธีในการผัดหมูสับผัดปลาเค็มใส่ใบโหระพา เริ่มต้นง่ายๆ เหมือนการผัดทั่วไป ว่าไปแล้วก็คล้ายๆ ผัดกะเพรา ขอให้มีกระเทียมสักหน่อยเป็นตัวตั้งต้นให้น้ำมันพืชธรรมดากลายเป็นน้ำมันเจียวกระเทียมหอมๆ ผู้เขียนนิยมที่จะผัดปลาเค็มกับน้ำมันให้สุก เหลืองและหอมเสียก่อนที่จะเติมส่วนผสมอื่นๆ ลงไปเพิ่มเติม ความชอบส่วนตัวคิดว่าเมื่อปลาเค็มเจอกับความร้อนสูงๆ ยิ่งทำให้กลิ่นของปลาเค็มหอมฟุ้งขึ้น แล้วยิ่งถ้ามีเวลาขยำหมูสับกับแป้งมัน เครื่องปรุงสักหน่อย จะได้หมูสับที่ผัดแล้วนุ่มละมุนยิ่งขึ้นไปอีก

ความเผ็ดของเมนูนี้จะช่วยทำให้กินข้าวได้เจริญอาหารขึ้น ระดับความเผ็ดอยู่ที่ฝีมือการทุบพริกขี้หนูและปริมาณที่ใช้ เอาเป็นว่าถ้าพริกขี้หนูได้เจอน้ำมันสักหน่อยก่อนจะมีส่วนผสมน้ำๆ และเครื่องปรุงจะยิ่งกระตุ้นต่อมน้ำลายให้แตกซ่านตั้งแต่อาหารยังมาไม่ถึงโต๊ะ ทันทีที่ความหอมฟุ้งกระจายที่นี้ก็มาถึงหน้าที่ความหอมของโหระพาที่เพียงแค่โรยลงในกระทะในขั้นตอนสุดท้าย ปล่อยให้ความร้อนที่เหลืออยู่ในกระทะเป็นตัวดึงเอาความหอมของใบโหระพาออกมาให้ฟุ้งหนักขึ้นไปอีก

นึกขอบคุณที่บ้านเราโชคดีมีผักสวนครัวแปลงน้อยๆ อยู่กับเขาด้วย วันนี้จึงรอดตายไปอีกวันกับเมนูหมูสับผัดปลาเค็มใส่ใบโหระพา กับข้าวง่ายๆ ที่ดันอร่อยถูกใจคุณพ่อบ้าน ว่าแล้วต้องรีบบึ่งรถออกไปตลาดซื้อกับข้าวมาตุนไว้สำหรับมื้อถัดไปไม่ให้เสียชื่อแม่บ้านสมองไว