posttoday

อาหารไทย อร่อยคลายร้อน

14 เมษายน 2560

หน้าร้อนมาเต็มรูปแบบแล้ว ช่วงนี้เปิดดูตามโซเชียลมีเดีย ก็เจอการเปรียบเปรยความร้อนในตอนนี้เอาไว้หลายๆ อย่าง

โดย...ปณิฏา สุวรรณปาล ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

หน้าร้อนมาเต็มรูปแบบแล้ว ช่วงนี้เปิดดูตามโซเชียลมีเดีย ก็เจอการเปรียบเปรยความร้อนในตอนนี้เอาไว้หลายๆ อย่าง ยิ่งอ่านยิ่งขำ แต่บ้างก็ว่า ยิ่งอ่านยิ่งร้อน ถึงร้อนแล้วก็อย่าเพิ่งเครียด ไปหาอะไรกินคลายร้อนตามแบบฉบับกินดื่มกันดีกว่า... (ไม่รู้จะทำอะไร ต้องอาศัย Eating Therapy นี่ล่ะจ้า)

หน้าร้อนควรกินอะไรดี ว่ากันว่า ควรเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไม่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกาย และไม่ทำให้เลือดลมเสียสมดุล อาหารที่จำเป็นก็คือผักและผลไม้สด รวมทั้งการกินโปรตีนจากสัตว์ปีก และควรเน้นอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากๆ ให้พลังงานน้อยๆ และต้องมีไขมันต่ำๆ จะได้ไม่ต้องอาศัยพลังงานในการเผาผลาญมาก ซึ่งจะทำให้รู้สึกร้อนยิ่งขึ้น

โปรตีนที่ย่อยยากไม่เหมาะกับการรับประทานในหน้าร้อน ควรเน้นผักและผลไม้ที่คลายร้อนได้ดี โดยเฉพาะชนิดที่มีน้ำเป็นส่วนผสมเยอะๆ เพื่อที่จะไปชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไปจากเหงื่อ เช่น มะเขือเทศ แตงกวา เต้าหู้ ข้าวโพด ผักโขม กีวี หรือแตงโม

อาหารไทย อร่อยคลายร้อน

อย่างไรก็ตาม ตำราแพทย์จีนบอกว่า ถึงจะเป็นหน้าร้อน แต่จะรับประทานแต่ของเย็นๆ อยู่แต่ในที่เย็นๆ ก็จะทำให้ร่างกายขาดสมดุล ถึงจะควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ให้ความร้อนแก่ร่างกาย เช่น ขิง กระเทียม เนื้อวัว ส้ม มะพร้าว ลิ้นจี่ ต้นหอม หรือหัวหอมใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะกินอะไรร้อนๆ ไม่ได้เลย อย่างคนจีนจะชอบดื่มชาร้อนในหน้าร้อน เพื่อให้เหงื่อออก แล้วยังช่วยแก้กระหายได้อีกด้วย

เมนูร้อนๆ เช่น มะระทรงเครื่อง น่าแปลกที่เป็นยาดับร้อน สามารถช่วยถอนพิษไข้ ยังช่วยแก้กระหายได้อีกด้วย เช่นเดียวกับพืชผักสมุนไพร และเมนูแก้ร้อนในต่างๆ ก็นำมากินคลายร้อนได้ดี ตั้งแต่ น้ำใบบัวบก ใบสะระแหน่ แตงโม ใบเตย ตะไคร้ กระเจี๊ยบ ฯลฯ ที่ช่วยดับกระหายและคลายความร้อนในร่างกาย

ใครยังนึกไม่ออกว่าจะหาทาง (กิน) คลายร้อนได้ที่ไหน ลองไปเช็กอินความอร่อย ที่อีทไทย ชั้น LG เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ที่ช่วงนี้เขามีเทศกาลคลายร้อน “เย็นฉ่ำชื่นใจ อาหารไทยคาว-หวาน” ที่ได้รวบรวมสุดยอดอาหารไทยหารับประทานยาก พร้อมด้วยกิจกรรมสุดพิเศษเฉพาะช่วงเดือน เม.ย.นี้เท่านั้น

อาหารไทย อร่อยคลายร้อน

โดยเฉพาะวันนี้-16 เม.ย. พบกับหลากหลายเมนูคาวหวานคลายร้อน ไม่ว่าจะเป็นเมนูไอศกรีมหลากรส ทำสดใหม่ทุกวัน ปราศจากสารกันบูดและน้ำตาล อาทิ ไอศกรีมมะม่วง ที่ใช้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองและมะม่วงอกร่องให้รสหวาน อมเปรี้ยวกินแล้วชื่นใจ, ไอศกรีมลิ้นจี่ ใช้ลิ้นจี่สดจากสมุทรสงคราม ได้รสชาติลิ้นจี่กันเต็มๆ, ไอศกรีมทุเรียน ใช้เนื้อทุเรียนหมอนทองมาตี ทำให้ได้รสชาติของทุเรียน ทั้งกลิ่นและรส ใครชอบกินทุเรียนรับรองฟินสุดๆ ไอศกรีมมะพร้าว ก็ใช้มะพร้าวสดๆ หวานกลมกล่อมชื่นใจ ใครชอบชาไทยสุดเข้มข้น ก็มีเสิร์ฟในรูปแบบไอศกรีมด้วยเช่นกัน

งานนี้ ยังมีทองม้วนสอดไส้จากแบรนด์ เอ้ก เอเลแฟนต์ คิง (EK Elephant King) สุดพรีเมียม ที่ผ่านการปรับสูตรและคิดค้นไส้ต่างๆ จนอร่อยถูกปากบรรดาคนรักขนมไทยถึง 10 รสชาติ  มีให้เลือกอร่อยทั้งแบบโรลสอดไส้และแบบแผ่นสอดไส้ ใครอยากมาชิมแบบปิ้งร้อนๆ จากเตา ก็มาชิมได้ที่อีทไทยด้วย

สำหรับ โซนมุมอร่อย ที่จัดอาหารจากร้านเด็ดๆ ผลัดเปลี่ยนกันทุกๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งครั้งนี้ยกเจ้าเด็ด เจ้าดังอย่างร้าน “กระบอกแก้ว ปลาเผาในกระบอกไม้ไผ่” เจ้าแรกดั้งเดิม จากตลาดคลองลัดมะยม ซึ่งเมนูสุขภาพของร้านที่แนะนำว่าต้องลองคือ “ปลาช่อนกระบอก” ซึ่งทางร้านเลือกกระบอกไม้ไผ่สีสุก ให้กลิ่นหอม พร้อมด้วยปลาช่อนคัดขนาด หมักกับสมุนไพรปรุงรสสูตรเฉพาะของทางร้าน เผาด้วยไฟอ่อนให้ค่อยๆ ระอุ สุกอย่างช้าๆ ทำให้เนื้อปลามีความนุ่มและไม่สูญเสียรสชาติและสารอาหารในเนื้อปลา เสิร์ฟพร้อมผักสดๆ จานใหญ่ และน้ำจิ้มรสเด็ด

อาหารไทย อร่อยคลายร้อน

นอกจากนี้ ร้านดังยังนำเมนู “ไก่กะเต๊ด” (ของอร่อยจากเมืองโคราช) หรือไก่เขย่าในภาษาไทยภาคกลาง ที่ใช้ไก่บ้านแท้อ่อน เนื้อนุ่ม นำมาปรุงรสตามสูตรของทางร้าน รับประทานคู่กับน้ำจิ้มรสจัดจ้าน, เมี่ยงปลาดุกย่างไร้ก้างและข้าวหน้าปลาดุกไร้ก้าง หมักสูตรน้ำซอสของทางร้านและนำมาย่างจนสุก ที่พร้อมเสิร์ฟมาให้ลิ้มลองกัน

สำหรับคนชอบกินก๋วยเตี๋ยว พลาดไม่ได้กับร้าน “โจโฉ ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง (สูตรโบราณ)” อร่อยแบบไม่ต้องปรุง กับเมนูเด็ดพร้อมเสิร์ฟมากมาย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวโจโฉซีฟู้ด กุ้งสด ปลาหมึกสด หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เสิร์ฟพร้อมไข่ต้มยางมะตูม ราดด้วยซอสต้มยำน้ำข้นโจโฉ รับรองว่าอร่อยจนต้องสั่งเพิ่ม!

ต่อด้วยความอร่อยแบบสวยๆ สไตล์ชาววัง ที่มีเสิร์ฟไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. นู่นเลย กับเมนูข้าวแช่ ต้นตำรับดั้งเดิม สูตรเฉพาะของอีทไทย ที่ครบครันด้วยเครื่องเคียง ทั้งลูกกะปิทอด, พริกหยวกห่มสไบสอดไส้หมูและกุ้ง, หัวไชโป๊วหวาน, หัวหอมสอดไส้ปลาแห้ง, ปลาช่อนผัดหวาน, หมูสับ-ปลากุเลาแห้งเค็มและพิเศษด้วยปลายี่สนผัดหวาน และถ้าจะให้รับประทานแบบถูกวิธีแนะนำให้ตักเครื่องเคียง แล้วตามด้วยข้าวและน้ำลอยดอกไม้ รับประทานคู่กับเครื่องเคียง บอกเลยทั้งหอมอร่อยและกลมกล่อมคลายร้อนแบบสุดๆ

อาหารไทย อร่อยคลายร้อน

เชฟบอล-ไพบูลย์ เชิญกลิ่นพุฒิ ผู้ช่วยเชฟแห่งอีทไทย บอกว่า มีเสิร์ฟแบบ เอ็กซ์คลูซีฟวันละ 80 ชุดเท่านั้น โดยข้าวแช่ที่นี่เป็นสูตรจากวังหญิง ที่อาศัยกรรมวิธีแบบโบราณในการทำโดยมีการลอยดอกกระดังงา, มะลิ และกุหลาบมอญ ก่อนอบควันเทียน โดยหุงข้าวแบบกำลังดี เพื่อให้เมล็ดออกมาเรียงสวย

“แต่ละส่วนผสมเราใส่ใจมาก อย่างพริกหยวกสอดไส้ เราคัดไซส์ 15 ชิ้นต่อ 1 กิโล คว้านเม็ดออกแล้วสอดไส้กุ้งกุลากับหมูสับ ที่ตีแบบทอดมันจนเหนียว ปรุงรสด้วยเกลือทะเล น้ำตาลทราย พริกไทย รากผักชี กระเทียม หรุ่มข้างนอกก็ใช้ไข่ไก่ผสมกับไข่เป็ด ใส่น้ำลอยดอกมะลิ น้ำส้มสายชู ใส้ตะแกรงตาถี่ ทอดในไฟอ่อนๆ เพื่อให้ออกมาสวยงาม

ส่วนหอมแดงสอดไส้ เราใช้ปลากุเลาผสมกับเนื้อหมูเคล้ากับเครื่องเทศ คว้านไส้หอมออกยัดเนื้อสัตว์เข้าไปแทนแล้วทอด หอมที่เราคว้านออกมาก็นำมาซอย โรยหน้าปลากุเลากับหมูหวานได้สวยๆ อีกด้วย ส่วนปลากุเลานี่เราใช้ความเค็มจากปลาโดยไม่ต้องใส่เกลือเพิ่มเลย ปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนดชนิดเนื้อแข็ง ที่เหมาะกับการทำอาหารคาวครับ”

อาหารไทย อร่อยคลายร้อน

เมนูข้าวแช่อีทไทย หากใครต้องการกินคลายร้อน แต่ขี้เกียจเดินทางมายังเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ยังสามารถสั่งผ่านเว็บ/แอพ ฟู้ดแพนด้า (Food Panda) และไลน์แมน (Line Man) ได้ด้วย รอแค่ 35 นาทีเท่านั้นก็ได้กิน โดยทางอีทไทยไม่ชาร์จราคาเพิ่ม

นอกจากข้าวแช่แล้ว ยังมีเมนูแตงโมปลาแห้ง ซึ่งเชฟบอลบอกว่าใช้สูตรของ ม.ล.เนื่อง (นิลรัตน์) ที่นำเอาเนื้อปลาช่อนนา มานึ่ง ยี แล้วก็ทอด ปรุงรสด้วยหอมเจียว น้ำตาลทราย และเกลือ กินคู่กับแตงโมจินตหราจาก จ.นครปฐม ทำเสิร์ฟแค่ 10 ที่ต่อวันเท่านั้น ส่วนอีกเมนูที่อยากนำเสนอคือ กล้วยทอดอีทไทย สูตรนางเลิ้ง ที่เชฟบอลการันตีความกรอบนาน 5 ชั่วโมง ด้วยสูตรพิเศษที่ปรับปรุงมาจากกล้วยแขกนางเลิ้ง มีเสิร์ฟเฉพาะที่อีทไทยเท่านั้น อ้อ... แล้วยังมี ลูกลานลอยแก้ว ที่ร่ำลือว่า 50 ปีจึงจะออกลูกสักครั้ง รสชาติเหมือนลูกชิดผสมกับลูกตาล ใส่น้ำเชื่อมและน้ำแข็ง เย็นอร่อยชื่นใจแน่ๆ

จัดให้ จัดเต็มขนาดนี้ อย่าลืมแวะมาเช็กอินความอร่อยกับเมนูดับร้อน “เย็นฉ่ำชื่นใจ อาหารไทยคาว-หวาน” ที่ อีทไทย ชั้น LG เซ็นทรัล เอ็มบาสซี  โทร. 02-160-5995